นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (กกถ.) ผลการประชุมสรุปดังนี้
เห็นชอบการเปลี่ยนแปลงโครงการเงินอุดหนุนเฉพาะกิจเพื่อพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กรณีเร่งด่วน ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ทั้งก่อนการจัดสรรงบประมาณให้แก่ อปท. ๙๐ โครงการ และหลังจากที่จัดสรรงบประมาณให้แก่ อปท. แล้ว ๑๑ โครงการ ตามที่ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) เสนอ ทั้งนี้ หากมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงโครงการในภายหลังอีกมอบอำนาจให้ สถ. เป็นผู้พิจารณาอนุมัติการเปลี่ยนแปลงโครงการต่อไป
กำหนดสัดส่วนรายได้ของ อปท. ต่อรายได้สุทธิของรัฐบาลในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ คือร้อยละ ๒๖.๖๔ หากภายหลังรัฐบาลมีรายได้เพิ่มขึ้นจะได้จัดสรรให้แก่ อปท. ในลำดับแรก
มอบให้คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์การจัดสรรรายได้ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับไปพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์การจัดสรรรายได้ให้แก่ อปท. ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕
ให้ สถ. เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๕ เพื่อจัดสรรอัตราครูให้แก่สถานศึกษาที่ถ่ายโอน จำนวน ๑๐๕ อัตรา เป็นเงิน ๑๘,๓๗๖,๙๒๐ บาท หรือถัวจ่ายจากเงินอุดหนุนที่ตั้งไว้สำหรับบุคลากรถ่ายโอนหรือเงินอุดหนุนประเภทอื่นที่ กกถ. ให้ความเห็นชอบ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ไปดำเนินการต่อไป
เห็นชอบกรอบแนวทางการจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่ อปท. ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ตามที่คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์การจัดสรรรายได้ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเสนอ ยกเว้นเงินอุดหนุนทั่วไปเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่และภารกิจถ่ายโอนเลือกทำ ให้ตั้งงบประมาณไว้ที่ สถ.
ให้สำนักงบประมาณรับไปพิจารณาข้อเสนอของ กทม. ที่ให้จัดสรรเงินอุดหนุนเป็นค่าเบี้ยยังชีพให้ผู้สูงอายุเต็มจำนวน โดย กทม. มิต้องใช้รายได้ของตนเองสมทบ
รับทราบกรณีที่ สถ. ได้รับอนุมัติให้ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ไปพลางก่อน ในสัดส่วน ๑ ใน ๓ ของเงินอุดหนุนทั่วไปที่ อปท. ได้รับการจัดสรรแล้วประมาณ ๑๗,๐๐๐ ล้านบาท
ประธาน กกถ. รับไปพิจารณาสัดส่วนระหว่างเงินอุดหนุนทั่วไปและเงินอุดหนุนเฉพาะกิจโดยให้มีสัดส่วนเงินอุดหนุนทั่วไปเพิ่มขึ้นเพื่อให้ อปท. มีอิสระในการตัดสินใจเองมากขึ้น