รมว.เกษตรฯสั่งหยุดระบายน้ำ
ปัจจัยจากน้ำทะเลนหนุนสุงวันนี้ ( 15 ต.ค.) ทำให้ รมว.เกษตรและสหกรณ์สั่งปิดประตูน้ำระบายน้ำบริเวณคลองระพีพัฒน์แยกตกเพื่อพร่องน้ำรองรับน้ำจากพื้นที่ภาคเหนือและกลาง ซึ่งคาดว่าจะเข้ามาวันนี้กว่าวินาทีละ 300 ลูกบาศก์เมตร พร้อมกำชับกรมชลประทาน เร่งขุดลอกคลองเสริมคันดิน และ เก็บผักตบชะวา เพื่อเพิ่มความเร็วการไหลของน้ำ
ภายหลังผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมหน่วยงานผู้เกี่ยวข้องลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์น้ำเหนือไหล่บ่ายังกรุงเทพมาหนคร ซึ่งได้รับอิทธิผลจากน้ำทะเลหนุนสูงวันนี้ ( 15 ต.ค.) โดยนายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า แม้ปริมาตรน้ำสะสมจากพื้นที่ดังกล่าวอาจสูงถึง 16,000 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่จะทยอยไหลสู่แม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก และ ตะวันออกรวมกันเพียงวันละกว่า 400 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น
ส่วนแผนบริหารน้ำเหนือลงสู่เจ้าพระยาฝั่งตะวันออกโดยไหลผ่านคลองรังสิตตลอดสายนั้น ได้ปิดประตูระบายน้ำบริเวณคลองระพีพัฒน์แยกตกเป็นการชั่วคราวเพื่อพร่องน้ำรองรับน้ำเหนือ ซึ่งคาดว่า จะเข้ามาวินาทีละ 300 ลูกบาศ์เมตร ก่อนระบายออกสู่คลองต่าง ๆ ตามแผน ตั้งแต่คลองรังสิต คลองแสนแสบ คลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต และ ไหลลงสู่ทะเลบางประกง จังหวัดสมุทรปราการ บริเวณ สถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิ ซึ่งเครื่องสูบขนาดใหญ่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตามประชาชนที่อาศัยบริเวณเขตหนองจอก และ ลาดกระบัง อาจได้รับผลกระทบมากกว่าเขตอื่น จึงกำชับกรมชลประทานให้เร่งเก็บผักตบชวาขุดลอกคลองระบายน้ำ พร้อมเสริมคั้นดินสูงขึ้นอีก 1 เมตร เนื่องจาก คลองระบายน้ำส่วนใหญ่เป็นคลองดิน ซึ่งตื้นเขินและอาจเป็นอุปสรรคการไหลของน้ำ
รมว.เกษตร และ สหกรณ์ กล่าวอีกว่า แม้สถานการณ์น้ำโดยรวมจะเริ่มคลี่คลายลงหลังเขื่อนขนาดใหญ่ ชะลอการระบายน้ำลงมา แต่ยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในทุกจุดอย่างใกล้ชิดเพื่อลดความเสียหายต่อพื้นที่ชุมชนและเศรษฐกิจสำคัญ ซึ่งรัฐมนตรีกระทรวงด้านเศรษฐกิจเตรียมประชุมประเมินความเสียหาย จันทร์นี้