ศาลปกครองสูงสุดเพิกถอนคำสั่งไม่รับจดทะเบียนจัดตั้ง
สำนักงานศาลปกครองให้ข้อมูลว่า คดีนี้ผู้ฟ้องคดีทั้งสามได้ยื่นคำขอจดทะเบียนจัดตั้งสมาคมศึกษาฝ่าหลุนกงแห่งประเทศไทยต่อนายทะเบียนสมาคมกรุงเทพมหานคร เมื่อนายทะเบียนฯ ได้รับคำขอและได้พิจารณาแล้วเห็นว่ายังไม่สมควรอนุญาตให้จัดตั้งสมาคมศึกษาฝ่าหลุนกงแห่งประเทศไทยเพราะอาจกระทบความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทย - จีน จึงมีคำสั่งไม่อนุญาตรับจดทะเบียนดังกล่าว ผู้ฟ้องคดีทั้งสามจึงได้อุทธรณ์คัดค้านคำสั่งไม่อนุญาตต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยพิจารณาแล้วเห็นว่า คำสั่งไม่อนุญาตรับจดทะเบียนของนายทะเบียนฯ ชอบแล้ว จึงมีคำสั่งยกอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีทั้งสาม ผู้ฟ้องคดีทั้งสามจึงนำคดีมาฟ้องต่อศาล โดยศาลปกครองชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง และผู้ฟ้องคดีทั้งสามยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้นต่อศาลปกครองสูงสุด
ศาลปกครองสูงสุดพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เมื่อพิจารณาตามวัตถุประสงค์ที่ผู้ฟ้องคดียื่นคำขอจัดตั้งสมาคมศึกษาฝ่าหลุนกงแห่งประเทศไทย โดยระบุว่ามีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ส่งเสริมการฝึกซี่กงแบบฝ่าหลุนกงเพื่อเสริมสร้างสุขภาพกายและใจ (2) เป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนข่าวสารแก่สมาชิกและบุคคลทั่วไป (3) เป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างผู้ฝึก (4) ให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องเกี่ยวกับฝ่าหลุนกงให้กับบุคคลทั่วไป (5) เป็นสมาคมที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ศาสนาหรือลัทธิใดๆ และ (6) เป็นสมาคมที่ไม่มีวัตถุประสงค์ทางธุรกิจและไม่แสวงหากำไร ซึ่งตามวัตถุประสงค์ของสมาคมที่ปรากฏนี้ถือได้ว่าไม่ขัดต่อกฎหมายหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือไม่เป็นภยันตรายต่อความสงบสุขของประชาชนหรือความมั่นคงของรัฐ
การที่นายทะเบียนฯ ปฏิเสธไม่รับจดทะเบียนจัดตั้งสมาคมโดยเห็นว่าหากรับจดทะเบียนจัดตั้งสมาคมอาจจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ที่ดีกับสาธารณรัฐประชาชนจีนนั้น การกล่าวอ้างการกระทำที่เกิดขึ้นของกลุ่มบุคคล แต่มิใช่เป็นการกระทำของสมาคม เพราะนายทะเบียนฯ ยังไม่ได้รับจดทะเบียน ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวจึงเป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าในการกระทำของสมาคม ซึ่งหากความปรากฏภายหลังว่านายทะเบียนฯ ได้จดทะเบียนให้แก่สมาคมแล้วและหากปรากฏว่าการดำเนินกิจการของสมาคมขัดต่อกฎหมายหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนหรืออาจเป็นภยันตรายต่อความสงบสุขของประชาชนหรือความมั่นคงของรัฐ นายทะเบียนสมาคมกรุงเทพมหานครย่อมอาศัยอำนาจตามมาตรา 102 (2) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ สั่งถอนชื่อสมาคมออกจากทะเบียนได้ หรือตามมาตรา 104 แห่งประมวลกฎหมายดังกล่าว ในกรณีมีเหตุตามมาตรา 102 ผู้มีส่วนได้เสียร้องขอให้นายทะเบียนฯ ถอนชื่อสมาคมออกจากทะเบียนได้
ดังนั้น การดำเนินกิจการของสมาคมตามความเชื่อและข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องเกี่ยวกับฝ่าหลุนกง บุคคลทั่วไปย่อมมีเสรีภาพในการปฏิบัติตามความเชื่อถือของตนและย่อมได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เว้นแต่การปฏิบัตินั้นเป็นปฏิปักษ์ต่อหน้าที่ของพลเมืองและเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ส่วนการรับ จดทะเบียนสมาคมนอกจากเรื่องวัตถุประสงค์ของสมาคมแล้วยังมีเงื่อนไขและข้อกำหนดอีกหลายประการที่นายทะเบียนฯ จะต้องพิจารณา ตามมาตรา 82 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ก่อนที่จะรับจดทะเบียนและออกใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนให้แก่สมาคม ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของฝ่ายปกครองต้องไปดำเนินการต่อไป
ศาลปกครองสูงสุดจึงพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้นเป็นให้เพิกถอนคำสั่งของนายทะเบียนกรุงเทพมหานคร ที่ไม่รับจดทะเบียนจัดตั้งสมาคมศึกษาฝ่าหลุนกงแห่งประเทศไทย และให้เพิกถอนคำวินิจฉัยของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ยกอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีทั้งสาม