คาดที่อยู่อาศัยเสียหาย 74,284 ล้านบาทจากน้ำท่วม

เศรษฐกิจ
26 ต.ค. 54
15:53
8
Logo Thai PBS
คาดที่อยู่อาศัยเสียหาย 74,284 ล้านบาทจากน้ำท่วม

ความเสียหายของบ้านเรือนของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจากน้ำท่วมครั้งนี้ ณ ปัจจุบันคาดว่าจะเป็นเงิน 74,284 ล้านบาท แต่อาจเพิ่มขึ้นหากไม่สามารถควบคุมน้ำได้จนน้ำไหลเข้าเขตใจกลางเมือง แนะให้ลดภาษี พัฒนาระบบสาธารณูปโภค สร้างเขื่อนริมแม่น้ำและรอบอ่าวไทย รวมทั้งการเป็นศูนย์ประชุมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

จากภัยน้ำท่วมในขณะนี้ ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย เผยเมื่อวันที่  26 ตุลาคมว่า จำนวนที่อยู่อาศัยที่สร้างเสร็จแล้วทั้งหมดและอยู่ในมือของประชาชนผู้ซื้อในพื้นที่น้ำท่วมแล้วในปัจจุบันมีอยู่ 329,569 หน่วย ที่เป็นแนวราบคือบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ ตึกแถว (ยกเว้นห้องชุด) มีรวมกัน 295,439 หน่วย ใน 1,467 โครงการ รวมมูลค่าถึง 726,161 ล้านบาท ตกเป็นเงินหน่วยละ 2.458 ล้านบาทโดยเฉลี่ย

หากสมมติว่าห้องชุดพักอาศัยไม่ได้รับความเสียหาย (แต่ในความเป็นจริงอาจเสียหายบ้างโดยเฉพาะอาคารจอดรถส่วนใต้ดิน) ความเสียหายเฉพาะที่อยู่อาศัยแนวราบ จะเป็นเงิน 51,436 ล้านบาท โดยการประมาณการว่า 85% ของบ้านในพื้นที่นี้ได้รับความเสียหาย มูลค่าของที่อยู่อาศัยหน่วยหนึ่งเป็นส่วนของอาคารราวหนึ่งในสาม และอาคารเสียหายในส่วนงานสถาปัตยกรรมและงานระบบประกอบอาคารไปประมาณ 25% ของมูลค่าอาคาร ความเสียหายส่วนนี้อยู่ในพื้นที่ พื้นที่เหล่านี้ได้แก่ซอยกันตนา (ฝั่งตะวันตก) ตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี ติวานนท์-สรงประภา นครอินทร์ นวนคร-รพีพัฒน์ บางบัวทอง ปทุมธานี-ทล.345 รังสิต-นครนายก คลอง 1-7 รังสิต-บางพูน ราชพฤกษ์-ท่าอิฐ ลำลูกกา และอยุธยา (บางปะอิน-วังน้อย)

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เสียงภัย ซึ่ง ณ วันที่แถลงโดยศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลแห่งแรกในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2537 นี้ บางส่วนก็ถูกน้ำท่วมไปบ้างแล้ว  พื้นที่เหล่านี้ได้แก่คลองสามวา-หนองจอก ปิ่นเกล้า ฝั่งธนบุรี รังสิต-คลอง 7-15 รามฯ-มีนบุรี-สุวินทวงศ์ ลาดกระบัง และสายไหม จำนวนบ้านแนวราบ (ไม่รวมห้องชุด) ในพื้นที่เสี่ยงนี้มีอีก 958 โครงการ จำนวน 166,225 หน่วย รวมมูลค่า 421,809 ล้านบาท หรือหน่วยละ 2.538 ล้านบาท

สำหรับในพื้นที่เสี่ยงนี้ หากรัฐบาลไม่อาจป้องกันภัยไว้ได้ ดร.โสภณ ได้ตั้งสมมติฐานความเสียหายไว้ที่ประมาณ 65% ของบ้านแนวราบทั้งหมด มูลค่าของที่อยู่อาศัยหน่วยหนึ่งเป็นส่วนของอาคารราวหนึ่งในสาม และอาคารเสียหายในส่วนงานสถาปัตยกรรมและงานระบบประกอบอาคารไปประมาณ 25% ของมูลค่าอาคาร ดังนั้นความเสียหายในส่วนนี้จะเป็นเงิน 22,848 ล้านบาท ดังนั้น คาดว่าความเสียหายโดยรวมสำหรับบ้านเรือนของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลโดยรวมคงเป็นเงินประมาณ 74,284 ล้านบาท และหากท่วมทุกพื้นที่ของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ความเสียหายคงมากเกินกว่าจะประเมินค่าได้ โดยเฉพาะระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ และความเชื่อมั่นของประเทศไทยในสายตาของนักลงทุนต่างชาติ

ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย  เชื่อว่าหลังจากภัยธรรมชาตินี้ รัฐบาลคงช่วยเยียวยาได้เฉพาะการลดภาษีเป็นสำคัญ เพราะมูลค่าความเสียหายมีมากมายและกระจายไปทุกภาคส่วน การฟื้นตัวของเศรษฐกิจอาจช้าเนื่องจากมีจะมีประชาชนตกงานเป็นจำนวนมาก เศรษฐกิจอาจติดลบในสภาพคล้ายวิกฤติเศรษฐกิจ พ.ศ.2540 แต่คงเป็นในช่วงสั้น ๆ

สิ่งที่รัฐบาลพึงทำก็คือการเร่งสร้างสาธารณูปโภคใหม่ด้วยระบบสัมปทานเพื่อความมั่นใจในเม็ดเงินลงทุนากนักลงทุนแทนที่รัฐบาลจะลงทุนเอง โดยเฉพาะการสร้างทางด่วนและเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสองฝั่งหรือโครงการขนาดใหญ่ประเภทเขื่อนกั้นอ่าวไทยเพื่อการผลักดันน้ำและการป้องกันน้ำทะเลหนุน การพัฒนาเหล่านี้จะเป็นการพลิกวิกฤติเป็นโอกาสการพัฒนาที่ดินใหม่ ๆ ในอนาคต นอกจากนี้ยังควรจัดการประชุมนานาชาติต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานครเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเยือนและการสร้างความมั่นใจกับทั่วโลก


ข่าวที่เกี่ยวข้อง