พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยายังวิกฤต
จากมีน้ำทะเลหนุนสูงในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ทำให้จังหวัดสมุทรปราการมีน้ำท่วมขังในชุมชนเทพวิรุฬ พื้นที่หมู่ 10 ตำบลในคลองบางปลากด อำเภอพระสมุทรเจดีย์ ถนนสุขสวัสดิ์บางจุดยังมีน้ำท่วมขัง แต่ราว 2-3 ชั่วโมง ระดับน้ำก็ลดลงเป็นปกติ โดยสาเหตุที่เกิดน้ำท่วมขังชุมชนแห่งนี้ก็เนื่องมาจากอยู่ในพื้นที่ลุ่ม ทำให้บ้านเรือนประมาณ 100 หลังคาเรือนได้รับผลกระทบ มีน้ำท่วมสูงประมาณ 30-40 ซม. จึงได้ประสานขอกำลังทหารให้ช่วยทำคันกันน้ำ ติดตั้งและเดินเครื่องสูบน้ำแล้ว รวมทั้งผู้นำท้องถิ่นได้นำกระสอบทรายมาวางกั้นน้ำไม่ให้ไหลเข้าบ้าน นอกจากนี้ ยังประสานกาชาดจังหวัดให้นำข้าวสารและอาหารแห้งไปแจกเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
ส่วนกรณีน้ำจากทิศเหนือที่ไหลเข้าเขตกรุงเทพมหานคร ขณะนี้ต้องเฝ้าระวังพื้นที่อำเภอพระประแดง เนื่องจากเส้นทางน้ำที่ไหลมาทางฝั่งธนบุรีอาจเปลี่ยนมาทางย่านทุ่งครุ เขตกรุงเทพมหานคร พื้นที่เชื่อมต่ออำเภอพระประแดงและอำเภอพระสมุทรเจดีย์ แต่หากน้ำเปลี่ยนมาเส้นทางนี้จะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ก็จะเข้าเขตจังหวัดสมุทรปราการ จึงกำชับให้ทั้ง 2 อำเภอ ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการยังได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการระบายน้ำที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตร สำนักชลประทานที่ 11 ตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ หลังมีกระแสข่าวว่า สถานีสูบน้ำชลหารพิจิตร 1 และ 2 ไม่เดินเครื่องสูบน้ำเต็มพิกัด โดยนายสุรัช ธนูศิลป์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตร ให้ข้อมูลว่า เครื่องสูบน้ำทั้ง 2 สถานีมีจำนวน 40 เครื่อง มีการสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนเดินเครื่องตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีการหยุดสูบ แต่เมื่อระดับน้ำต่ำกว่าปกติ โดยเมื่อวานนี้ (31 ต.ค.) อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลปานกลางที่ 12 เซนติเมตร จึงไม่สามารถเดินเครื่องได้เต็มกำลัง จึงเดินเครื่องสูบเพียง 24 เครื่อง
ส่วนกรณีที่มีน้ำไหลเข้ามาในปริมาณน้อยนั้นก็ขึ้นอยู่กับการระบายน้ำจากทิศเหนือ คือจังหวัดปทุมธานีและกรุงเทพมหานคร ว่ามีการระบายน้ำอย่างไร ในส่วนจังหวัดสมุทรปราการมีความพร้อมเตรียมรับการระบายน้ำอย่างเต็มที่ จึงอยากประชาสัมพันธ์ให้ทราบโดยทั่วกันว่า หากประชาชน หรือผู้พบเห็น เกิดความสงสัยเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำ ขอให้สอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง เพื่อจะได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่เกิดความสับสน
ส่วนที่จังหวัดปทุมธานี พระจากวัดธรรมกายและชาวบ้านอำเภอคลองหลวงเร่งช่วยกันกู้เส้นทางที่ตัดเข้าอำเภอคลองหลวง ถนนคลองหลวง-หนองเสือ ด้วยการใช้ท่อปูนวางเรียงและใช้กระสอบทรายวางในท่อปูน จากนั้นใช้ผ้าใบคลุมแนวท่อปูนอีกชั้นหนึ่ง แล้วสูบน้ำบนถนนออก เพื่อเป็นการลดปริมาณน้ำในพื้นถนนให้ลดลง ให้รถจักรยานยนต์และรถยนต์สามารถใช้เส้นทางได้ หลังระดับน้ำบริเวณคอสะพานข้ามคลอง 1 ช่วงบริเวณทางข้ามตลาดบางขัน ระดับน้ำท่วมสูงสูง 50-80 เซนติเมตร ตลอดระยะทางกว่า 500 เมตร
ส่วนถนนพหลโยธินฝั่งขาเข้า การจราจรติดขัดเป็นทางยาวกว่า 10 กิโลเมตร ตั้งแต่ทางขึ้นถนนโทลล์เวย์ถึงนิคมอุตสาหกรรมนวนคร เนื่องจากรถจำนวนเลี่ยงมาใช้เส้นทางถนนพหลโยธิน หลังพบว่า ระดับน้ำในช่องทางการจราจรช่องทางด่วนลดลง และเห็นว่า ถนนพหลโยธินสามารถใช้เป็นเส้นทางเดินทางไปยังภาคเหนือได้แล้ว จึงทำให้มีรถมาใช้เส้นทางนี้จนเป็นสาเหตุให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก
ขณะที่สถานการณ์ในจังหวัดนนทบุรี ระดับน้ำในหลายอำเภอยังไม่คลี่คลาย แต่มีเรื่องที่น่าเป็นห่วงไม่น้อยไปกว่าสถานการณ์น้ำ คือมีการตั้งแก๊งขโมยรถจักรยานยนต์ในบ้านของผู้ประสบภัย โดย พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รักษาราชการผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 แถลงข่าวจับกุมนายยุทธนา โชคเผ่าอำไพ อายุ 19 ปี, นายพงษ์ธวัช ขำวิไล อายุ 18 ปี และเยาวชนอีก 6 ราย แก๊งลักรถจักรยานยนต์ที่ออกขโมยรถจักรยานยนต์ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรีและจังหวัดปทุมธานี ซึ่งทั้งหมดถูกตั้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่ออำนวยความสะดวกในการกระทำผิด