พี่สาวผู้เสียชีวิตเหตุระเบิดราชประสงค์ เผยน้องไปสักการะท้าวมหาพรหมหวังให้พ่อ-แม่หายป่วย
วันนี้ (19 ส.ค.2558) งานศพของ น.ส.น้ำอ้อย แสงจัง พนักงานขายบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเป็นไปอย่างเรียบง่ายมีเพียงญาติ สามี และเจ้าหน้าที่ประกันสังคมนำเงินช่วยเหลือจำนวน 40,000 บาท ไปมอบให้ตามสิทธิประกันสังคม
พี่สาว น.ส.น้ำอ้อย เล่าว่า ความตั้งใจที่ต้องการให้พ่อแม่หายป่วยจากโรคอัมพฤกษ์ทำให้น้องสาวเข้าไปสักการะศาลท้าวมหาพรหมในช่วงเวลาที่เกิดเหตุระเบิดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (17 ส.ค.2558) การเสียชีวิตกะทันหันของ น.ส.น้ำอ้อย ทำให้สามีรู้สึกกังวลกับอนาคตของลูกทั้ง 2 คน ที่มีอายุเพียง 7 ขวบและ 3 ขวบ เพราะจากนี้ไปต้องรับภาระดูแลลูกเพียงลำพัง
เวลาเดียวกันที่ อ.เซกา จ.บึงกาฬ ก็มีงานศพอีกงานหนึ่ง ผู้ตายคือ น.ส.ปราณี สีสุวะ พนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง เธอเสียชีวิตพร้อมกับ น.ส.สุดชาดา นิสีดา เพื่อนร่วมงาน ซึ่งญาติพี่น้องนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่ อ.เชียงคาน จ.เลย แม่ของ น.ส.ปราณี เล่าว่าลูกสาวเพิ่งกลับไปเยี่ยมครอบครัวในช่วงเข้าพรรษาและเคยเล่าให้ฟังบ่อย ๆ ว่า เวลาไม่สบายใจจะชวนเพื่อนที่ทำงานด้วยกันไปไหว้ศาลพระพรหมซึ่งอยู่ในเส้นทางกลับบ้านเป็นประจำ ขณะที่ญาติหลาย ๆ คน ของ น.ส.สุดชาดา ที่ อ.เชียงคาน ยังทำใจไม่ได้กับการจากไปอย่างกะทันหัน เนื่องจากผู้เสียชีวิตมีลูกสาวเล็ก ๆ ที่ต้องดูแล
ผู้ประกันตนที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิดแยกราชประสงค์ สำนักงานประกันสังคมจะจ่ายเงินค่าทำศพให้คนละ 40,000 บาท รวมทั้งเงินสงเคราะห์ตามระยะเวลาที่ส่งเงินให้ประกันสังคม สำหรับเหตุการณ์ระเบิดที่บริเวณแยกราชประสงค์ มีผู้เสียชีวิต 20 คน ในจำนวนนี้เป็นคนไทย 6 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 120 คน