คสช.ชี้เหตุระเบิดที่ราชประสงค์ทำเป็นขบวนการ-ไม่น่าเชื่อมโยงกลุ่มก่อการร้ายสากล
เรียนพี่น้องที่เคารพ 3 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติงานคลี่คลายสถานการณ์ ที่แยกราชประสงค์ เหตุการณ์โดยรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เรียนให้ทราบดังนี้
สถานการณ์โดยรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ และพลเรือน ได้ให้การปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้ประชาชน ดูแลในพื้นที่สำคัญต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
สำหรับเหตุการณ์รถไฟฟ้า BTS นานา ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (19 ส.ค.2558) เป็นเพียงการก่อกวน หวังให้เกิดความสับสนและตื่นตระหนกเท่านั้น
เรื่องการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ในส่วนของผู้เสียชีวิตจำนวน 20 คน ได้มีการติดต่อญาติให้เข้ามายืนเอกสารแล้ว 16 คน จ่ายเงินช่วยเหลือแล้ว 9 คน ผู้เสียชีวิตได้มีการพิสูจน์อัตลักษณ์แล้วเป็นส่วนใหญ่ เหลือเพียง 2 ศพที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ ดังนั้น จึงขอความร่วมมือผู้ที่สงสัยว่าจะเป็นญาติของตนติดต่อโรงพยาบาลตำรวจเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้ติดต่อมายื่นเอกสารแล้วจำนวน 70 คน และมีการจ่ายเงินช่วยเหลือไปบางส่วนแล้ว สำหรับการรักษาพยาบาล ข้อมูลจากศูนย์ป้องกันและแก้ไขสาธารณภัยด้านการแพทย์และสาธารณสุขช่วงเช้าวันนี้ ระบุว่ายังมีผู้บาดเจ็บรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลต่างๆ 67 คน
ในส่วนของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในเรื่องสืบสวนคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนและสอบพยานบุคคล พยานแวดล้อมต่างๆ ทั้งในส่วนของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและผู้ที่เห็นเหตุการณ์จึงไปสู่ขั้นตอนการออกหมายจับผู้ต้องสงสัยตามที่ข่าวได้ออกไปแล้ว และสามารถสรุปได้ในชั้นต้นว่า เหตุการณ์ดังกล่าวมีการดำเนินการอย่างเป็นขบวนการ สำหรับด้านการข่าวหน่วยงานความมั่นคง ยังคงได้รับความร่วมมือจากหน่วยข่าวของมิตรประเทศ ซึ่งมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันชั้นต้นว่า เหตุการณ์ที่เกินขึ้นไม่น่าเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้ายสากล และเห็นว่าเป้าหมายของผู้ก่อเหตุไม่ได้มุ่งกระทำต่อนักท่องเที่ยวชาวจีนโดยตรง มีบุคคลสัญชาติอื่นได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน
ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ขอขอบคุณประชาชนชาวไทยที่ได้ร่วมการแสดงออกถึงความมีน้ำใจ และการเป็นเจ้าบ้านที่ดี เช่นการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ณ จุดเกิดเหตุ การให้ความช่วยเหลือผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง การร่วมบริจาคโลหิตตามโรงพยาบาลต่างๆ และการให้กำลังใจและการร่วมไว้อาลัยแก่ญาติและครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ ถือเป็นสิ่งจำเป็นทำให้เห็นว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คนไทยและประเทศไทย ไม่เคยปล่อยปะละเลยหรือทอดทิ้ง ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นคนชาติใดหรือศาสนาใด
อย่างไรก็ตามเพื่อให้สามารถติดตามผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้นั้น จึงขอความร่วมมือประชาชนหากพบเบาะแส หรือมีข้อมูลเพิ่มเติมของผู้ต้องสงสัยตามหมายจับขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที และขอแจ้งให้ทราบว่าเจ้าหน้าที่จะขอเพิ่มระดับต่อการบังคับใช้กฎหมาย ต่อผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลทางสื่อสังคมออนไลน์ และผู้ที่ออกมาสร้างเหตุก่อกวน จนทำให้สังคมเกิดความสับสน หรือตื่นตระหนกอย่างจริงจังให้มากยิ่งขึ้น