นายกฯยันไม่อ่อนแอแก้ปัญหาน้ำท่วม
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงครัวรัฐบาลและเยี่ยมประชาชนที่ประสบภัยในย่านถนนเพชรเกษม โดยได้กล่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็นที่ประชาชนส่วนใหญ่ระบุว่าขาดความเชื่อมั่นรัฐบาลในการแก้ปัญหา ซึ่งนายกรัฐมนตรียอมรับว่าการทำงานอาจจะมีความสับสนในข้อมูลบางครั้ง แต่ขณะนี้เชื่อว่าการทำงานเป็นเอกภาพมากขึ้น และหากไม่ได้มีการทำอะไรปัญหาอาจจะหนักกว่านี้
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรียังปฏิเสธเรื่องการหลั่งน้ำตาเพื่อลดความกดดันการแก้ปัญหา โดยระบุว่าไม่เคยอ่อนแอในการทำงานถึงขั้นต้องร้องไห้ แต่การได้ไปพบปะประชาชนในพื้นที่ย่อมจะมีอารมณ์ร่วมกับความทุกข์ของประชาชนด้วย
ขณะที่ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข้อเสนอแก้ปัญหา 5 แนวทางให้กับนายกรัฐมนตรี คือให้พูดความจริงไม่บิดเบือนข้อมูล ดูแลศูนย์อพยพให้มีความเป็นอยู่เพียงพอ ตรวจสอบข้อเท็จจริงการทุจริตสิ่งของบริจาคให้ชัดเจนโดยเฉพาะกรณีล่าสุดที่มีการจัดซื้อเรือลำละ 250,000 บาท ซึ่งยังไม่มีคำตอบจากรัฐบาลว่าได้จัดซื้อเรือชนิดใดจึงมีราคาแพง ส่วนการใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติการบรรเทาสาธารณภัย มาตรา 31 ต้องทำให้ชัดเจนสำหรับมาตรการเยียวยาการจ่ายเงินชดเชยก็ต้องทำให้เท่าเทียมกัน
นอกจากนี้ยังเสนอให้นายกรัฐมนตรีควบคุมดูแล ส.ส.พรรคเพื่อไทยไม่ให้สร้างปัญหาในพื้นที่ เช่นการเป็นแกนนำภาคประชาชนรื้อแนวคันกั้นน้ำ โดยพรรคประชาธิปัตย์พร้อมสนับสนุนการแก้ปัญหา และต้องการเห็นความเข้มแข็งนายกรัฐมนตรีในการนำพาประเทศฝ่าวิกฤตไปได้
ในการประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์วันอังคารนี้ (15 พ.ย.) มีรายงานว่าที่ประชุมจะพิจารณาการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรนี้ล่วงหน้า รวมถึงการถอดถอน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผู้อำนวยการ ศปภ. ออกจากตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายการุณ โหสกุล ส.ส.กรุงเทพมหานคร และ นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครธรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เกี่ยวกับการทุจริตสิ่งของบริจาคของ ศปภ.