กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ชี้ “ปลดล็อกรถคันแรก” ซ้ำเติมภาวะตลาดรถยนต์ซบเซา
แม้จะตัดสินใจซื้อรถจากโครงการรถยนต์คันแรก แต่ปัจจุบัน นายไพฑูรย์ เปาเล้ง ยังเลือกเดินทางไปทำงานด้วยรถโดยสารประจำทาง เพราะมองว่าการใช้รถยนต์แต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า นอกจากนี้ในแต่ละเดือน ยังต้องขอเงินจากทางบ้านมาจ่ายค่าผ่อนรถ แต่ยังไม่คิดขายรถในตอนนี้ แม้มีเงื่อนไขลดระยะเวลาการขายต่อได้เร็วขึ้น
นอกจากเสียงสะท้อนของผู้ใช้รถที่กังวลถึงความคุ้มค่า นายธนบูลย์ จิระไตรลักษณ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้วแสดงทัศนะว่า แนวคิดการยกเลิกเงื่อนไขการขายรถยนต์ในโครงการรถยนตร์คันแรก จากห้ามขายภายใน 5 ปี เหลือ 3 ปี อาจเป็นการซ้ำเติมตลาดรถยนต์มือสอง
ด้าน นายองอาจ พงศ์กิจวรสิน ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) กล่าวว่า หากเงื่อนไขลดจำนวนปีการครอบครองรถยนต์คันแรกสามารถกระตุ้นให้ตลาดรถฟื้นตัวได้จริง จะส่งผลดีต่อกระบวนการผลิตต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ แต่ทั้งหมดยังเป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น
นายองอาจกล่าวอีกว่า ปีนี้ตลาดการซื้อขายรถยนต์มือหนึ่งมียอดจำหน่ายเพียง 3-4 แสนคัน จากที่ตั้งเป้าไว้ 8 แสนคัน ส่วนตลาดรถยนตร์มือสองยอดขายในแต่ละเดือนลดลงต่อเนื่อง นอกจากนี้ ค่ายรถยนต์ทุกบริษัทลดกำลังผลิตลง ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลต่ออาชีพและรายได้ของสายพานการผลิตรถยนต์ทั้งหมด
อย่างไรก็ดี ทั้งนายองอาจ และนายธนบูลย์ เห็นสอดคล้องกันว่า จากตัวเลขนี้ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่ามีจำนวนรถยนต์ที่ค้างสต็อกทั้งมือหนึ่งและมือสอง จึงเห็นควรชะลอการกระตุ้นตลาดรถยนต์ด้วยเงื่อนไขในข้างต้นและรอให้เศรษฐกิจฟื้นตัว เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการปลุกกำลังซื้อให้เป็นไปตามกลไกตลาดอย่างแท้จริง