เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2558 ที่ผ่านมา นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โพสต์เฟซบุ๊ก Chaturon Chaisang โดยระบุถึงเหตุผลในการไม่รับร่างรัฐธรรมนูญว่า รัฐบาลหลังเลือกตั้งอยู่ในสภาพอ่อนแอ และออกแบบโดยเอื้อให้คนนอกมาเป็นรัฐมนตรี และให้ ส.ว.ที่มีที่มาจากการสรรหาสามารถถอดถอนได้ทุกฝ่ายและเป็นการสืบทอดอำนาจของ คสช.และกองทัพ โดยมีเนื้อหา ดังนี้
‘เหตุผลที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ’
ในที่สุดคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญก็เปิดเผยร่างที่ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า สมกับที่ไปแอบมุบมิบยกร่างอย่างลับๆล่อๆอยู่นาน คือ ปรากฏว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้กำลังจะเป็นรัฐธรรมนูญที่เลวร้ายที่สุด เป็นเผด็จการที่สุดตั้งแต่เคยมีรัฐธรรมนูญกันมาในประเทศไทยก็ว่าได้ เมื่ออ่านร่างรัฐธรรมนูญโดยมองภาพรวมของเนื้อหาส่วนต่างๆที่เชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบแล้ว ไม่อาจรับร่างรัฐธรรมนูญนี้ด้วยเหตุผลดังนี้ :
1. ทำให้การเลือกตั้งไร้ความหมาย รัฐบาลหลังการเลือกตั้งจะไม่สามารถบริหารประเทศตอบสนองความต้องการของประชาชนได้
2. ทำให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอยู่ในสภาพอ่อนแอ ไม่มีเสถียรภาพและจะถูกล้มไปได้โดยง่าย
3. เป็นระบบที่ออกแบบไว้เพื่อเปิดทางและเอื้ออำนวยให้คนนอกมาเป็นนายกรัฐมนตรีซึ่งจะเข้ากันได้กับกลไกของรัฐธรรมนูญนี้มากกว่า
4. มีระบบการถอดถอนที่ทำลายหลักการของการตรวจสอบถ่วงดุลคือ ให้สว. ที่มาจากการลากตั้งมีอำนาจถอดถอนทุกฝ่ายและให้สส.ฝ่ายรัฐบาลมีอำนาจถอดถอนสส.ฝ่ายค้านได้
5. ไม่มีการแก้ไขปรับปรุงองค์กรตรวจสอบทั้งหลายจากการเลือกปฏิบัติและปราศจากการตรวจสอบถ่วงดุลโดยองค์กรอื่นหรือโดยประชาชน ทั้งยังมีการเพิ่มเติมองค์กรลักษณะเดียวกันอีกจำนวนมาก
6. เป็นการวางระบบการสืบทอดอำนาจของคสช.และกองทัพ โดยอาศัยคณะกรรมการยุทธศาสตร์ปฏิรูปฯควบคุมกำกับการทำงานของรัฐบาลและรัฐสภาต่อไปอีกยาวนาน
7. เปิดช่องให้มีการสร้างเงื่อนไขสำหรับการนำระบบเผด็จการเบ็ดเสร็จเต็มรูปแบบ เช่นเดียวกับการปกครองโดยคสช.มาใช้อย่างง่ายดาย ซึ่งก็คือ การทำรัฐประหารโดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
8. รัฐธรรมนูญนี้เมื่อประกาศใช้แล้ว ไม่อาจแก้ไขได้อีก ทำให้เกิดความขัดแย้งในสังคมมากยิ่งขึ้นโดยไม่มีทางออกตามกติกา
ในระหว่างที่คณะกรรมาธิการฯกำลังยกร่างอยู่นั้น เมื่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากๆ ก็มักมีการชี้แจงว่า ที่วิจารณ์กันนั้นเกิดจากการไม่ทราบข้อเท็จจริงที่ยังไม่มีการเปิดเผย แต่เมื่อเปิดเผยออกมาแล้ว กลับพบว่าร่างนี้มีเนื้อหาที่เลวร้ายกว่าที่เคยมีการวิพากษ์วิจารณ์กันเสียอีก เพราะนอกจากจะคงเนื้อหาที่เป็นปัญหาทั้งหลายไว้เป็นส่วนใหญ่แล้ว ยังมีการหมกเม็ดบางเรื่องไว้ด้วยการบัญญัติไว้ในบทเฉพาะกาลและอีกหลายเรื่องกำหนดว่า จะไปบัญญัติไว้ในพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญโดยสนช. ซึ่งหมายความว่ายังอาจจะเลวร้ายยิ่งไปกว่านี้อีกด้วย อ่านร่างรัฐธรรมนูญนี้แล้ว ยังไงก็ไม่อาจเปรียบเทียบกับนางงาม แต่เป็นอะไรที่อัปลักษณ์และอันตราย คนสมัยก่อนอาจนึกถึง ‘ซีอุย’ ในขณะที่คนสมัยนี้ที่ชอบดูหนังซีรีส์ฝรั่งก็อาจนึกถึง ‘ฮันนิบาล’ เสียมากกว่า