หมอโรคภูมิแพ้เตือน ล้างบ้านหลังน้ำท่วมระวัง
ผศ.นพ. เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้ เปิดเผยว่า ในภาวะที่เกิดอุทกภัยหลายพื้นที่ ส่งผลให้น้ำท่วมบ้านของประชาชนในหลายๆ พื้นที่ท่วมสูงแตกต่างกันไป บางพื้นที่น้ำท่วมบ้านต้องจมอยู่ในน้ำ เป็นเดือนๆ บางพื้นที่แค่ 2 สัปดาห์ 1 สัปดาห์ หรือบางพื้นที่ก็เพียงไม่กี่วัน แต่เมื่อน้ำเริ่มลดลงเจ้าของบ้านทุกคน ก็จะเริ่มทยอยเข้าไปทำความสะอาจบ้าน ซึ่งน้ำที่ท่วมภายในบ้านทำให้เป็นแหล่งที่อยู่ของเชื้อรา เพราะความชื้นของน้ำ เชื้อราจะขยายตัวและกระจายอยู่ตามอากาศและข้างของเครื่องใช้ต่างๆ ตลอดถึงขอบประตูหน้าต่างทุกบาน ทุกพื้นที่ภายในบ้าน
ดังนั้นการเข้าบ้านจึงต้องเริ่มจากการเปิดประตูหน้าต่างทุกบาน เพื่อให้เกิดการระบายอากาศภายในบ้านและให้แสงแดดส่องถึงพื้นที่ภายในบ้าน เปิดเพื่อให้อากาศถ่ายเทสักครึ่งวัน หรือ- 1 วันเต็ม ต่อจากนั้นให้เตรียมตัวเองให้พร้อมตั้งแต่อุปกรณ์ทำความสะอาด และควรระมัดระวังผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้หืดหอบ หรือแพ้ฝุ่นละอองต่างๆควรจะต้องเตรียมหน้ากากที่มีประสิทธิภาพดี เพื่อปิดปากจมูก เตรียมถุงมือเพื่อใส่ขณะทำความสะอาด
และไม่ใช่เพียงแค่ผู้ที่แพ้ฝุ่นหรือเป็นโรคภูมิแพ้ โรคหืดหอบเท่านั้น ที่ต้องสวมหน้ากากปิดปากจมูก แต่ทุกคนที่จะเข้าไปทำความสะอาดบ้าน นอกจากนี้ให้เตรียมรองเท้าบูทหากพื้นที่บริเวณบ้านยังมีน้ำขังอยู่และต้องระมัดระวังการเดินเท้าเปล่าเพราะอาจจะโดนสิ่งมีคมหรือหินบาดเท้าได้ หากบริเวณบ้านยังมีน้ำขังและเป็นน้ำสกปรก เราจะมองไม่เห็นว่าบริเวณไหนมีสิ่งของอะไรบ้าง การเดินโดยไม่สวมรองเท้าจะทำให้เกิดบาดแผลได้ เมื่อทำความสะอาดบ้านเรียบร้อยแล้วควรรีบอาบน้ำ สระผมทันทีเพราะเชื้อโรคที่เรามองไม่เห็นจะติดมากับผิวหนัง ซึ่งถ้ายังไม่รีบทำความสะอาดร่างกายจะทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย ซึ่งส่วนใหญ่จะผ่านเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ
“หากไม่จำเป็นไม่ควรให้เด็กเล็กๆ ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวอย่างหอบหืด หรือโรคภูมิแพ้เข้าไปทำความสะอาดบ้าน แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ ที่ผู้ป่วยโรคหอบหืดและโรคภูมิแพ้ต้องเข้าไปทำความสะอาดบ้านด้วยตัวเอง แนะนำว่าต้องปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด และควรจะเตรียมยาแก้แพ้ ยาประจำตัวเช่นยาพ่นจมูกเพื่อขยายหลอดลมหากเกิดภาวะหืดหอบ หายใจไม่ออก จะได้ใช้ยาอย่างทันท่วงที หากอาการไม่ดีขึ้นต้องรีบพบแพทย์ทันที ซึ่งถ้าภาวะหอบหืดกำเริบแล้วไม่ใช้ยาหรือพบแพทย์อาจจะส่งผลถึงแก่ชีวิตได้ ในรายที่มีภาวะหอบหอบรุนแรง”