ออกหมายจับสามี
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร.เปิดเผยว่าศาลได้ออกหมายจับนายเอ็มระห์ในข้อหาครอบครองยุทธภัณฑ์ นับเป็นผู้ต้องหาคนที่ 8 ที่ถูกออกหมายจับในความผิดที่คาดว่าเกี่ยวข้องกับการวางระเบิดที่แยกราชประสงค์และที่สะพานสาทรเมื่อวันที่ 17 และ 18 ส.ค.2558
ผู้ต้องหาคดีระเบิดทั้ง 8 คนที่ศาลอนุมัติหมายจับแล้ว ได้แก่
1.ชายเสื้อเหลืองไม่ทราบชื่อ คาดว่าเป็นคนลอบวางระเบิด บริเวณแยกราชประสงค์
2.ชายเสื้อฟ้า ตามภาพวงจรปิด เหตุระเบิดที่ท่าเรือสาทร
3.ชายไม่ทราบชื่อและสัญชาติ
4.นางสาววรรณา สวนสัน ซึ่งได้ติดต่อขอพบกับตำรวจแล้ว
5.นายอาลิ โจลัน สัญชาติตุรกี
6.นายอาฮ์เม็ท โบซองแลน
7.ชายชาวตุรกีไม่ทราบชื่อตามภาพสเก็ตช์
8.นายเอ็มระห์ ดาวูโตกลู สามีของนางวรรณ สวนสัน
เมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ (2 ก.ย.) พล.ต.ท.ประวุฒิแถลงร่วมกับ พ.อ.วินธัน สุวารี โฆษก คสช. ถึงการควบคุมตัวชายชาวต่างชาติที่ถูกจับที่จังหวัดสระแก้วเมื่อวานนี้ (1 ก.ย.) และผลการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาตร์ว่า เบื้องต้นพบหลักฐานลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องสงสัยตรงกับที่พบบนขวดบรรจุระเบิดที่เจ้าหน้าที่เก็บได้ในห้องพักย่านหนอกจอกเมื่อวันที่ 29 ส.ค.และได้มีการควบคุมตัวชายต่างชาติอีกคน
พล.ต.ท.ประวุฒิเชื่อว่าชายคนที่ถูกจับที่ จ.สระแก้วมีความเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด แต่ยังไม่ชัดเจนว่าคือชายเสื้อเหลืองตามหมายจับหรือไม่
"ชายผู้นี้เป็นผู้ที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับผู้ที่กระทำความผิดที่แยกราชประสงค์และที่สะพานสาทร โดยวันนี้ผลการตรวจสอบพิมพ์มือจากกองพิสูจน์หลักฐานสามารถยืนยันได้ว่าชายคนดังกล่าวมีลายพิมพ์นิ้วมืออยู่ในขวดที่บรรจุสารระเบิดที่เจ้าหน้าที่พบในห้องพักหมายเลข 414 พูลอนันต์อพาร์ตเมนท์ สามารถยืนยันได้ว่าชายคนดังกล่าวเกี่ยวข้องกับวัตถุระเบิด อาจจะเป็นผู้นำวัตถุระเบิดออกจากห้องหรือนำระเบิดไปยังที่เกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้ตำรวจกำลังตรวจสอบวัตถุพยานและวัตถุชีวภาพที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุ" โฆษก ตร.กล่าว
ต่อมา พล.ต.ท.ประวุฒิได้แถลงข่าวเพิ่มเติมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยระบุว่าสองสามีภรรยา คือ นายเอ็มระห์และนางสาววรรณา มีพฤติกรรมการจัดที่พักให้กลุ่มผู้ต้องสงสัยก่อเหตุระเบิด ส่วนนายมิราลลี มูซูฟ ชายต่างชาติที่ถูกจับที่จังหวัดสระแก้ว มีผลการตรวจพิสูจน์ยืนยันว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการ เนื่องจากพบลายนิ้วมือในห้องพักที่พบวัตถุระเบิดย่านหนองจอก
สำหรับมูลเหตุจูงในการก่อเหตุนั้น พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่าน่าจะเกิดจากความไม่พอใจของกลุ่มบุคคลที่เสียผลประโยชน์จากการปราบปรามบุคคลที่จะเดินทางมาไทยและเดินทางต่อไปประเทศอื่นโดยผิดกฎหมาย ซึ่งมีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่ร่วมกันทำงาน
จากผู้ที่ถูกออกหมายจับ 8 คน เจ้าหน้าที่ส่วนที่จับได้แล้ว 2 คนคือนายอาเด็ม คาราดัก ถูกควบคุมที่อพาร์ทเมนท์ย่านหนอกจอก พร้อมอุปกรณ์ประกอบระเบิด และนายมิราลลี มูซูฟ ที่ถูกจับที่จังหวัดสระแก้ว ซึ่งพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา หัวหน้าชุดคลี่คลายคดีระเบิดยืนยันว่า นายมิราลลี รับว่าอยู่ในที่เกิดเหตุวันที่ 17 ด้วย
ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า ฝ่ายความมั่นคงควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยอีก 1 คน เป็นคนไทยที่อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาสตั้งแต่เมื่อคืนนี้ กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน
รองนายกฯ ยันไม่หารือจีนเรื่องเหตุระเบิดแยกราชประสงค์
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวก่อนเดินทางไปเยือนจีนว่าตนจะไม่มีการพูดคุยกับจีนกรณีจับผู้ต้องหาระเบิดแยกราชประสงค์ เพราะเป็นเรื่องภายในประเทศ เพราะขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องสัญชาติของผู้ต้องสงสัยหรือชนวนเหตุว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องใดแน่ แต่สิ่งที่ไทยทำขณะนี้คือเร่งสอบสวนขยายผลถึงเครือข่ายทั้งหมด
"จะไปคุยกับเขา (จีน) ทำไม มันไม่เกี่ยวกับเขาเลย มันเป็นเรื่องของเรา ไว้ให้มันได้อะไรชัดเจนก่อน เวลานี้สิ่งที่สำคัญคือการรวบรวมข้อมูลว่าเครือข่ายผู้ก่อเหตุมีใครบ้างและการสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน" พล.อ.ประวิตรกล่าว
ด่านชายแดนคุมเข้ม ป้องกันผู้ต้องหาตามหมายจับหลบหนี
การตรวจสอบด่านพรมแดนของประเทศไทยขณะนี้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันการหลบหนีของผู้ต้องสงสัย คดีลอบวางระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์
บางจังหวัดต้องตั้งจุดสกัดเพิ่มตั้งแต่บนทางหลวงก่อนถึงด่านเข้าเมืองโดยเน้นตรวจหนังสือผ่านแดนและลักษณะเฉพาะบุคคลหรือเชื้อชาติที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ
เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศจังหวัดสระแก้ว และ ทหารพราน เข้มงวดตรวจสอบบุคคลที่ผ่านเข้าออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก โดยเน้นตรวจพาสปอร์ต/ หลังเจ้าหน้าที่จับผู้ต้องสงสัย คดีวางระเบิดราชประสงค์ ที่ชายแดนด้านจังหวัดสระแก้ว เมื่อวานนี้
ส่วนชายแดนด้าน อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ตำรวจตั้งจุดสกัดเพิ่มบนทางหลวง ตั้งแต่แยกซองกาเลีย ถึงด่านเจดีย์สามองค์ โดยตรวจสอบรถทุกคัน ทั้งบัตรประจำตัวประชาชน และหนังสือเดินทางชาวต่างชาติ โดยเฉพาะบุคคลผู้ที่จะเดินทางไปประเทศเมียนมา
ทั้งนี้ในอดีตด่านเจดีย์สามองค์ เป็นช่องทางหนึ่งที่ผู้กระทำความผิดในประเทศ มักใช้เป็นเส้นทางหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ เช่นเดียวกับด่านพรมแดนไทย-เมียนมา ด้านอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ตรงข้ามจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดการผ่านแดนทั้งขาเข้าและออก เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมือง โดยเฉพาะชาวอุยกูร์ โดยเน้นตรวจลักษณะเฉพาะบุคคล หนังสือผ่านแดน ตลอดจนรถยนต์ และรถจักรยานยนต์