นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย แถลงยืนยันว่า ตนเองและลูกพรรคลงมติไม่ไว้วางใจ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม มีเพียงนายชัยวัฒน์ ไกรฤกษ์ ส.ส.พรรครักประเทศไทย ที่เข้าใจผิด โดยลงมติไม่เห็นด้วย เพราะคิดว่าหมายถึงไม่ไว้วางใจ ขณะที่อีก 1 คนไม่สบาย ทั้งนี้ การลงมติไม่ไว้วางใจ แม้จะไม่ได้ร่วมอภิปราย ถือเป็นความใจกว้างทางการเมือง ไม่ใช่เพราะการอภิปรายของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งใช้ข้อมูลเก่า เป็นการเล่าข่าว ด้วยการนำข้อมูลจากสื่อมวลชนและยูทูบ ที่ประชาชนรู้แล้ว มาอภิปรายมาเท่านั้น ขณะที่ข้อมูลของตนเองเป็นข้อมูลใหม่ อย่างเช่น ราคา เต็นท์ หรือกระสอบทรายยักษ์ แต่ไม่ได้รับโอกาสในการอภิปราย ทั้งนี้ ยืนยันว่า ที่ผ่านมาไม่เคยได้รับการประสานจากพรรคประชาธิปัตย์ให้เข้าร่วมประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้าน แม้ในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ก็ได้รับการประสานล่วงหน้าก่อนลงชื่อยื่นญัตติดังกล่าวอย่างกะทันหัน ทำให้ไม่ได้เตรียมข้อมูล จึงไม่ได้ร่วมลงชื่อ โดยการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์เช่นนี้จะส่งผลต่อเอกภาพของฝ่ายค้าน ดังนั้นจึงได้หารือกับพรรครักษ์สันติและพรรคมาตุภูมิในการรวมเสียงกัน ซึ่งจะได้ 7 เสียง จึงน่าจะทำให้การต่อรองมีความเข้มแข็งมากขึ้น นอกจากนี้จะนำข้อมูลเรื่องการทุจริตในการแก้ปัญหาน้ำท่วม ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราบการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)