ศปภ.เริ่มรื้อบิ๊กแบ็กในบางจุดพรุ่งนี้
นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เลขานุการคณะทำงานบริหารจัดการระบายน้ำ ศปภ. กล่าวถึงการประชุม ศปภ.เพื่อประเมินการรื้อแนวคันกั้นน้ำกระสอบทรายขนาดใหญ่ หรือ บิ๊กแบ็ก บางจุด คาดว่า จะทยอยรื้อแนวบิ๊กแบ็กในวันพรุ่งนี้ ( 30 พ.ย.) โดยพิจารณาตามปริมาณน้ำที่ลดลง และ น้ำที่ขังในพื้นที่ด้านล่างของบิ๊กแบ็ก โดยทางกรุงเทพมหานครจะเป็นผู้ประเมิน
ขณะที่ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงคมนาคม กองทัพ กำลังรวบรวมอุปกรณ์ที่จะใช้รื้อแนวบิ๊กแบ็ก โดยจุดแรกที่จะรื้อคือ บริเวณถนนจันทรุเบกษาตัดกับถนนพลโยธิน เนื่องจากระดับในพื้นที่ดังกล่าวน้ำเริ่มลดลงแล้ว นอกจากนี้จะมีการประเมินรื้อแนวบิ๊กแบ็กในเขตสายไหมต่อไป
ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยวาตภัยและดินโคลนถล่มกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์น้ำในคลองสายหลักของพื้นที่ กทม.ลดลงต่อเนื่อง โดยระดับน้ำในคลองหกวาสายล่าง ที่ประตูระบายน้ำคลองสองลดลง 2 เซนติเมตร,คลองเปรมประชากร ด้านดอนเมือง ลดลง 6 เซนติเมตร, คลองแสนแสบช่วงแขวงบางชัน ลดลง 1-3 เซนติเมตร,คลองลาดพร้าว ลดลง 2-3 เซนติเมตร, คลองบางเขน ช่วงถนนกรุงเทพฯ-นนท์ ลดลง 4-6 เซนติเมตร, คลองบางซื่อ ลดลง 2-4 เซนติเมตร ขณะที่คลองมหาสวัสดิ์ ที่ประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนาลดลง 3 เซนติเมตร แต่ยังคงมีปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ตอนบนของฝั่งธนบุรีอยู่
ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยหรือ ปภ. สรุปพื้นที่ประสบภัยพิบัติ ใน 2 พื้นที่ คือ ประเทศไทยตอนบน 15 จังหวัด และภาคใต้ 8 จังหวัด รวม 23 จังหวัด มีจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วอยู่ระหว่างฟื้นฟู 50 จังหวัด มียอดผู้เสียชีวิตรวม 661 ราย จากสาเหตุจมน้ำ และ ไฟฟ้าดูดมากที่สุด โดยจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีผุ้เสียชีวิตมากที่สุดรวม 139 รองลงมาเป็นนครสวรรค์ ลพบุรี สุพรรณบุรี และ สิงห์บุรี ตามลำดับ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุอทกภัยในจังหวัดภาคใต้ 4 จังหวัดได้แก้พัทลุง สงขลา ยะลา นราธฺวาส รวมปัจจุบันมี 9 คน