วันนี้ ก.พาณิชย์นัดผู้ค้าวัสดุก่อสร้างหารือปรับลดราคา หลังน้ำท่วม
กระทรวงพาณิชย์จะประชุมหารือกับผู้ค้าวัสดุก่อสร้างในวันนี้ ( 1 ธ.ค.) เพื่อขอความร่วมมือในการปรับลดราคาสินค้าให้กับประชาชน พร้อมทั้งคาดการณ์ว่า เหล็ก ปูน แล ะทราย ไม่น่าจะขาดตลาด ยกเว้นอิฐก้อน ที่โรงงานได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
นายภูมิ สาระผล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันนี้จะประชุมหารือกับผู้ประกอบการวัสดุก่อสร้าง โดยจะขอความร่วมมือปรับลดสินค้าให้แก่ประชาชนที่จำเป็นต้องใช้สินค้าในกลุ่มดังกล่าวเพื่อฟื้นฟูบ้านเรือนหลังสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย ทั้งนี้เบื้องต้นได้ขอความร่วมมือให้ตรึงราคาไว้ก่อน ขณะที่ก่อนหน้านี้ กรมการค้าภายในได้เจรจากับผู้ประกอบการพบว่า กลุ่ม เช่น กระเบื้อง สุขภัณฑ์ห้องน้ำ สีทาบ้าน น้ำยาทำความสะอาด พร้อมให้ความร่วมมือปรับลดราคาลงมาเพื่อช่วยเหลือประชาชน
ขณะเดียวกันคาดว่าสินค้าวัสดุก่อสร้างที่น่าจะไม่ขาดตลาดแล้ว ได้แก่ เหล็ก ปูน และทราย แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ อิฐก้อน ที่อาจมีขาดตลาดได้ เนื่องจากโรงงานได้รับผลกระทบจำนวนมาก
นอกจากเรื่องราคาวัสดุก่อสร้างแล้ว เรื่องของราคาอาหาร เช่น ไข่ไก่ ยังพบว่ามีการขายเกินราคาอยู่ จากปกติฟองละ 3-4 บาท และ นมข้นหวาน ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมโรงงานที่ผลิต ทำให้ขาดตลาด จึงเร่งให้ผู้ประกอบการโรงงานที่ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ผลิตเพิ่มเติมเพื่อรองรับความต้องการของประชาชน
ด้านนางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า มีผู้ประกอบการลากจูงรถยนต์ รวมถึงบริการซ่อมรถยนต์บางราย คิดค่าบริการแพงเกินจริง ได้แก่ อะไหล่รถยนต์ บริการซ่อมรถ บริการปะยาง บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และบริการล้าง อัด ฉีด ซึ่งเป็นสินค้าและบริการที่ต้องปิดป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจน
กรมการค้าภายในได้หารือกับผู้ประกอบการรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ เพื่อกำหนดมาตรการกำกับดูแลให้เป็นธรรม พร้อมทั้งขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ลดราคา และไม่ปรับเพิ่มราคาอะไหล่ ซึ่งทางเอกชนยินดีให้ความร่วมมือลดราคาอะไหล่ลงร้อยละ 10-50
นอกจากนี้ยังได้ประสานความร่วมมือไปยังสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และสมาคมอู่กลางการประกันภัย เพื่อให้สมาชิกกำหนดอัตราค่าบริการไม่เกินกว่าราคากลางมาตรฐานที่กำหนด และให้บริการตรวจสอบและซ่อมแซมรถยนต์ในราคาพิเศษ โดยกรมจะจัดทำราคากลางเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของกรมและสื่อต่าง ๆ
ทั้งนี้ หากมีการคิดค่าบริการเกินอัตราที่กำหนด อาจเข้าข่ายความผิดจงใจ มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ กรณีไม่ปิดป้ายแสดงค่าบริการซ่อมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท โดยประชาชนสามารถร้องเรียนได้ที่ 1569
