ยูเนสโกสำรวจโบราณสถานในอยุธยาหลังน้ำลด

ยูเนสโกเก็บข้อมูลโบราณสถานในอยุธยาที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เพื่อวางแผนป้องกันปัญหาจากน้ำท่วมในระยะยาว

ผู้เชี่ยวชาญด้านการบูรณะโบราณสถานจากยูเนสโกลงสำรวจพื้นที่เก็บข้อมูลโบราณสถานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม อาทิ สุสานบ้านโปรตุเกสที่ถูกน้ำท่วมขังเกือบ 2 เมตร วัดไชยวัฒนาราม ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ประมาณ 80 เซนติเมตร ซึ่งการทรุดพังของแนวกำแพงแก้วด้านตะวันตกกว่า 20 เมตร เป็นหนึ่งในร่องรอยความเสียหายของวัดไชยวัฒนาราม ที่สังเกตได้หลังน้ำลด เช่นเดียวกับรอยคราบน้ำและรอยแตกร้าวที่อาจเกิดจากการกัดเซาะของน้ำ รวมทั้งรอยเฉี่ยวชนของเรือที่ประชาชนใช้ขณะประสบภัย ซึ่งความเสียหายเหล่านี้ถูกเสนอเป็นข้อมูลเบื้องต้นให้ผู้เชี่ยวชาญด้านเชื้อราที่เกิดขึ้นกับโบราณสถาน และผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการน้ำ ก่อนเปลี่ยนเป็นแผนฟื้นฟูป้องกันในระยะยาว

ทั้งนี้แผนงานบูรณะโบราณสถานกว่า 300 แห่งที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม คาดการณ์ว่าจะต้องใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 1,400 ล้านบาทในการฟื้นฟู ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นการทำงานร่วมกันของผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านจากไทยและยูเนสโก

นอกจากความเสียหายที่เกิดกับสิ่งก่อสร้างของโบราณสถานแล้ว ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเก่าแก่ ที่อาจได้รับผลกระทบจากความชื้น เพราะอยู่กับน้ำท่วมขังเป็นระยะเวลานาน ซึ่งต้องได้รับการบูรณะโดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ หลังจากผู้เชี่ยวชาญจากยูเนสโก้ประเมินความเสียหายและสรุปผลในวันที่ 2 ธันวาคมแล้ว จะนำเสนอแนวทางการบูรณะและป้องกันโบราณสถานให้เกิดความมั่นคง ทนต่อสภาพต่างๆ  เบื้องต้นยูเนสโกตอบรับการสนับสนุนงบประมาณฟื้นฟู 72,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 2 ล้านบาท