สหรัฐฯกดดันประเทศพม่าแต่ใช้สไตล์การทูตแบบจูงใจในการแถลงข่าวที่กรุงเนปิดอว์เมื่อวานนี้(1 ธ.ค.) นางฮิลลารี่ คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐบอกกับผู้นำทั้งหลายในพม่า รวมถึงประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ซึ่งถือว่ามีอำนาจและบารมีมากที่สุด ว่า สหรัฐสนับสนุนวิสัยทัศน์การปฏิรูปที่แจกแจงให้เธอทราบ แต่สหรัฐฯจะกระทำตอบแทน ถ้าพม่าปฎิรูปประชาธิปไตยไปอย่างจริงจัง ยอมปล่อยนักโทษการเมืองทั้งหมด รวมถึงตัดความสัมพันธ์ด้านการทหารกับเกาหลีเหนือ สหรัฐฯอาจปรับยกระดับความสัมพันธ์ทางการทูต แต่สำหรับการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร พร้อมทั้งระบุว่าไม่ใช่เวลาที่จะมาพิจารณาในตอนนี้
และยังประกาศว่ารัฐบาลสหรัฐฯจะให้พม่าเข้าร่วมกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขงที่สหรัฐฯสนับสนุนอยู่ พร้อมทั้งจะเลิกขัดขวางการขอเงินกู้จากไอเอ็มเอฟ รวมทั้งจะสนับสนุนโครงการด้านสุขภาพของสหประชาชาติ ปล่อยกู้รายย่อย และร่วมมือปราบปรามยาเสพติด
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯคนหนึ่งอ้างว่า พลเอกเต่ง เส่ง ใช้เวลาถึง 45 นาทีบรรยายแผนการปฏิรูปพม่าให้นางฮิลลารี่ฟัง ซึ่งพลเอกเต็งเส่งก็ยังยอมรับว่าพม่าล้าหลังในความเป็นประชาธิปไตยและการเปิดประเทศ ทั้งนี้พลเอกเต็งเส่งยังขอให้สหรัฐฯเข้ามาช่วยเหลือในช่วงที่พม่ากำลังเปลี่ยนผ่านจากการปกครองโดยคณะทหารไปสู่เป็นการปกครองโดยพลเรือน
ในวันนี้ (2 ธ.ค.) นางฮิลลารี่จะหารือกับนางอองซานซูจีอีกครั้งหลังจากพบกันครั้งแรกเมื่อวานนี้
