น้ำท่วม-ดินถล่มในภาคตอ.เฉียงเหนือของญี่ปุ่น ทางการอพยพประชาชนกว่า 1 แสนคน
น้ำจากแม่น้ำคินุกาวาไหลบ่าเข้าท่วมเมืองโจโซ (Joso) ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศเหนือของกรุงโตเกียว หน่วยกู้ภัยส่งเฮลิคอปเตอร์ไปในพื้นที่ประสบภัยเพื่ออพยพประชาชนที่ต่างรอคอยความช่วยเหลืออยู่บนหลังคาบ้าน ฝนที่ตกหนักเป็นผลมาจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น Etau ที่พัดถล่มญี่ปุ่นช่วง 2 วันที่ผ่านมา
พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือจังหวัดอิบารากิและโทชิงิ ซึ่งสำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นได้เฝ้าระวังเป็นพิเศษ ขณะที่ระดับน้ำท่วมใน จ.โทชิงิ สูงถึงประมาณ 60 ซม.ซึ่งนับว่าเป็นระดับที่สูงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
"เราไม่เคยเจอปริมาณฝนมากขนาดนี้มาก่อน มีโอกาสสูงที่จะเกิดภัยพิบัติ" นายทากุยา เดชิมารุ หัวหน้าฝ่ายพยากรณ์อากาศ สำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น กล่าวในการแถลงข่าวด่วนในช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.)
ขณะที่ประชาชนอีกราว 800,000 คนที่อาศัยอยู่ทางภาคตะวันออกของประเทศได้รับคำเตือนจากทางการญี่ปุ่นให้อพยพออกจากพื้นที่แล้ว โดยเจ้าหน้าที่หน่วยงานป้องกันสาธารณภัยคาดว่า ตัวเลขของผู้ที่ต้องอพยพออกจากพื้นที่ประสบภัยจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทางการญี่ปุ่นรายงานว่าล่าสุดมีผู้บาดเจ็บจากเหตุน้ำท่วมและดินถล่ม 15 คน ขณะที่สื่อท้องถิ่นรายงานว่ามีผู้สูญหาย 1 คนหลังจากดินถล่มลงมาใส่บ้านพักของเขาในเมืองคานุมา จ.โทชิงิ
สื่อท้องถิ่นรายงานด้วยว่าในเกิดไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ รวมทั้งมีการระงับเที่ยวบินและการเดินรถไฟ
นายชินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น แถลงว่าเจ้าหน้าที่กำลังทำงานอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย
"รัฐบาลจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรับมือกับภัยพิบัติครั้งนี้ โดยให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือประชาชนเป็นอันดับแรก" นายอาเบะกล่าว