สภาความมั่นคงตั้งศูนย์ปฏิบัติการฯแม่น้ำโขง
สภาความมั่นคงแห่งชาติเตรียมจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดในแม่น้ำโขง ที่จังหวัดเชียงราย ตามข้อตกลงระหว่างไทย ลาว พม่า และ จีน หลังช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเรือบรรทุกสินค้าของจีนถูกยิงจนทำให้กัปตันและลูกเรือเสียชีวิต 13 คน
พล.ต.อ.วิเชียรพจน์โพธิ์ศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. และ หน่วยงานด้านความมั่นคง สำรวจเส้นทางในแม่น้ำโขง ตั้งแต่ท่าเรือเชียงแสน ถึงบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ จังหวัดเชียงราย เพื่อจัดตั้งศูนย์ปฎิบัติการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดในแม่น้ำโขง หรือ ศปปข.ตามข้อตกลงของคณะกรรมการร่วม 4 ฝ่าย คือ ไทย จีน ลาว และ พม่า หลังเกิดเหตุยิงเรือสินค้าของจีน 2 ลำ มีกัปตัน และลูกเรือ เสียชีวิตรวม 13 คน และ พบยาเสพติดจำนวนหนึ่ง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เรือสินค้าของจีนหยุดเดินเรือมาเกือบ 1 เดือน แต่หลังจัดตั้ง ศูนย์ ศปปข.เพื่อลาดตระเวนในลุ่มแม่น้ำโขงประเทศจีน จะเริ่มเดินเรือสินค้าอีกครั้ง ประมาณวันที่ 10 ธันวาคม
ส่วนความคืบหน้าคดีตำรวจภูธรภาค 5 ได้สรุปสำนวน ส่งอัยการสูงสุดแล้วการสอบสวน พบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรไทย 25 กิโลเมตรในเขตพม่า และ ลาว ซึ่งอัยการสูงสุดมีคำสั่งให้อธิบดีอัยการภาค 5 อธิบดีกองการต่างประเทศ และอธิบดีสำนักงานตำรวจแห่งชาติติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกรณีพบยาเสพติดบนเรือ
คดียิงเรือสินค้าของจีนเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ขณะลอยลำเข้ามายังน่านน้ำไทย ซึ่งทหารกองกำลังผาเมือง และ หน่วยปฏิบัติการเรือรักษาความสงบเรียบร้อยลุ่มน้ำโขงเชียงราย ได้เข้าตรวจสอบ และ พบผู้เสียชีวิตบนเรือ 1 คนอาวุธปืนอาก้า 1 กระบอก และยาเสพติด 920,000 เม็ด ภายหลังพบศพลูกเรือถูกล็อฏด้วยกุญแจมือ และ มีผ้าปิดตาริมฝั่งแม่น้ำโขง รวม 13 คน
โดยการสืบสวนของตำรวจเบื้องต้น คาดว่า ถูกปล้นสะดมจากกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า กองกำลังโจรสลัดน้ำจืด ที่มีนายหน่อคำ เป็นหัวหน้า และกำลังติดตามว่ามีเจ้าหน้าที่ไทยเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ก่อนหน้านี้มีการแจ้งข้อกล่าวหาทหาร 9 นายที่ปฎิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุ และ ปฎิเสธเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้
