วันนี้(11ก.ย.2558) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ยืนยันว่าหากพบตำรวจตรวจคนเข้าเมือง รับสินบนทั้งจากที่ถูกผู้ต้องหาคดีระเบิดแยกราชประสงค์ หรือประชาชนทั่วไปร้องเรียน ก็ต้องดำเนินการไปตามกฏหมาย รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ระบุด้วยว่าขณะนี้รัฐบาลมีนโยบายในการปรับปรุงประสิทธิภาพของสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และการตรวจสอบเรื่องการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยอยู่แล้วและอยู่ระหว่างการเร่งดำเนินการ
ขณะที่เมื่อวานนี้ (10 ก.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่าได้มอบหมายให้ พล.อ. ประวิตร ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ดูแลสอบสวนเรื่องนี้และหากเห็นว่าจำเป็นต้องโยกย้ายตำรวจคนใด ตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเสนอเพื่อความสะดวกในการสอบสวนก็ให้ดำเนินการทันที
ด้านพล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ จเรตำรวจ เรียกประชุมจเรตำรวจทั้งหมดตั้งแต่ระดับรองจเรตำรวจ จนถึงระดับผู้กำกับการ เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.สระแก้ว 6 คน ที่ถูกสั่งย้ายก่อนหน้านี้ให้มาช่วยราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา ตามคำสั่งพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ การตรวจสอบพฤติกรรมจะต้องแล้วเสร็จและส่งรายงานให้ ภายในวันที่ 23 ก.ย.นี้
สำหรับคำสั่งย้ายและการตรวจสอบพฤติกรรมตรวจคนเข้าเมืองส่วนหนึ่งมาจากคำซัดทอดจากผู้ต้องหาคดีระเบิด ศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร โดยเฉพาะนายเมียไรลี ยูซูฟู ที่ให้ข้อมูลว่าจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่ แลกกับการไม่ตรวจสอบเอกสารอย่างเข้มงวดตามกฎหมาย ครั้งละประมาณ 18,000-20,000 บาท
นอกจากนี้ยังมีคำซัดทอดว่าผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับและผู้ร่วมขบวนการบางคน น่าจะหลบหนีออกนอกประเทศไทยไปแล้ว ทั้งทางสนามบินสุวรรณภูมิ และด่านชายแดนทางภาคใต้ จากพฤติกรรมทั้งหมดทำให้พล.ต.อ.สมยศ ออกมาประกาศจะจัดการอย่างเด็ดขาดกับตรวจคนเข้าเมืองทั้งระบบ โดยได้ทำหนังสือรายงานพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไปแล้ว