ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามประหารชีวิต
วันนี้ (14 ก.ย.2558) ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลจังหวัดหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นตัดสินลงโทษหระหารชีวิตนายวันชัย แสงขาว ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมเด็กหญิงอายุ 13 ปี บนรถไฟเมื่อเดือน ก.ค.2557 หลังจากนายวันชัยได้ยื่นขออุทธรณ์ขอให้บรรเทาโทษประหารชีวิตของศาลชั้นต้น
ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ตรวจสำนวนแล้วเห็นว่าอุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษาให้ประหารชีวิตตามศาลชั้นต้น ส่วนอุทธรณ์ของจำเลยที่บอกว่าให้การเป็นประโยชน์ในชั้นสอบสวนและชั้นศาล ศาลอุทธรณ์ภาค 7 เห็นว่าก่อนหน้านี้จำเลยปฏิเสธว่าไม่รู้เห็นการหายไปของผู้เสียชีวิต แต่มารับสารภาพหลังจากตำรวจสืบสวนพบโทรศัพท์มือถือที่จำเลยขโมยไปขายและหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ทำให้ไม่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี อีกทั้งการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำที่อุกอาจ โหดเหี้ยม เป็นภัยต่อสุจริตชน ทั้งที่ตนเองเป็นพนักงานการรถไฟฯ ที่ต้องให้ความปลอดภัยต่อผู้โดยสาร และสั่งให้คืนของกลางที่ขโมยไปให้กับโจทก์ทั้งหมด
ทั้งนี้นายวันชัย จำเลยได้ถูกเบิกตัวมาจากเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เพื่อมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ด้านนายสมเจตน์ อำนวยสวัสดิ์ อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สำนักงานอัยการภาค 7 เปิดเผยว่าจำเลยสามารถยื่นฎีกาได้ตามกฎหมายภายใน 30 วัน
คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ก.ค.2557 นายวันชัยซึ่งเป็นพนักงานปูเตียงบนรถไฟ ได้ก่อเหตุฆาตกรรม ด.ญ.วัย 13 ปี ที่อยู่ระหว่างโดยสารมากับขบวนรถไฟสายนครศรีธรรมราช-กรุงเทพมหานคร เพื่อเดินทางมายังกรุงเทพฯ หัลงเกิดเหตุการณ์ชุดสอบสวนได้เบาะแสของคดีและเรียกตัวนายวันชัย พร้อมกับะนายณัฐกรณ์ ชำนาญ พนักงานที่ทำหน้าที่ปูเตียงในโบกี้รถไฟมาสอบปากคำ ซึ่งทั้ง 2 คนรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันทำร้ายร่างกายเด็กหญิงและโยนร่างลงจากรถไฟในเขต จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยนายวันชัยรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ
นายวันชัยถูกสั่งฟ้อง 5 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตนเองเพื่อเลี่ยงความผิดที่ได้กระทำไว้, กระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนบนยวดยานสาธารณะ, ซ่อนเร่น ย้าย หรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย และเสพยาเสพติดให้โทษ ส่วนนายณัฐกรณ์ ถูกสั่งฟ้อง ข้อหาสนับสนุนให้ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุ ไม่เกิน 15 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มอีกว่าก่อนที่ศาลจะตัดสินในช่วงเช้าวันนี้ ทนายความของครอบครัว ด.ญ.อายุ 13 ปี ได้เปิดเผยว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ชดใช้เงินช่วยเหลือจากเหตุดังกล่าวแล้วเป็นจำนวนเงิน 8.5 ล้านบาท เมื่อรวมค่าจัดงานณาปนกิจศพด้วยเป็นเงิน 10 ล้านบาท
ติดตามข่าวสารผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ไทยพีบีเอสออนไลน์
https://www.facebook.com/ThaiPBSNews?ref=hl