ศาลอนุมัติหมายจับคดีค้ามนุษย์เพิ่มอีก 50 คน
ภายหลังการรวบรวมพยานหลักฐานนานกว่า 5 เดือน วันนี้ (22 ก.ย.2558) ศาลจังหวัดปากพนังได้อนุมัติหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดีค้ามนุษย์ เพิ่มอีก 50 หมายจับ ผู้ต้องหา 50 คน โดยพล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอาง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุว่า แบ่งคดีค้ามนุษย์เป็นสองส่วน คือ ความผิดในคดีค้ามนุษย์ และคดีฟอกเงิน และได้มีการเพิ่มข้อกล่าวหาร่วมกันเป็นเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติแก่ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับในวันนี้ ซึ่งข้อหานี้ได้แจ้งกับผู้ต้องหาที่จับกุมตัวได้ก่อนหน้าบางส่วน
ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการคดีค้ามนุษย์ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่อ.ปากพนัง และจะเพิ่มพนักงานสอบสวน เนื่องจากคดีมีความเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ขอเปิดเผยรายชื่อของผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ เพื่อป้องกันการหลบหนี แต่เชื่อว่ามีข้าราชการระดับสูงในบางหน่วยงานร่วมด้วย
ส่วนการโยกย้ายข้าราชการตำรวจในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และ ภาค9 จำนวน 32 นาย หัวหน้าคณะทำงานสอบสวนคลี่คลายคดีค้ามนุษย์ ระบุว่า การโยกย้ายตำรวจ 32 นายในภาคใต้ เป็นการโยกย้ายเพื่อให้ทีมสอบสวนทำงานได้สะดวก แต่ไม่ได้หมายความว่าผู้ที่ถูกโยกย้ายจะมีส่วนพัวพันในคดี แต่หากมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงว่าผู้ใดเกี่ยวข้องก็จะต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด
ด้าน พ.อ.ณัฏฐ์สิทธิ์ มากสุวรรณ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จังหวัดสตูล ซึ่งเป็นหนึ่งใน 4 นายทหารที่ถูกออกหมายจับในคดีค้ามนุษย์ ชี้แจงผ่านทางโทรศัพท์ว่า จะเดินทางเข้าให้ข้อมูลกับ กอ.รมน.ส่วนกลาง ในวันพรุ่งนี้ และยอมรับว่า มีบัญชีลับเพื่อใช้ในการทำงาน โดยเงินส่วนใหญ่มากจากเงินด้านการข่าวลับจาก กอ.รมน.ส่วนกลาง และกองทัพภาคที่ 4 ส่วนหน้า รวมถึงเป็นเงินค่าอำนวยความสะดวกในการเดินทางต่อไปยังประเทศที่สามของคนต่างชาติ ที่จะมีรายได้ 60 บาท ต่อหัวต่อวัน และยืนยันจะต่อสู้ทางคดีจนถึงที่สุด ส่วนข้อกล่าวหาว่า มีเงินจาก พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ผู้ต้องหาในคดีค้ามนุษย์ โอนเข้าบัญชีนั้น ปฎิเสธว่าไม่เป็นความจริง ขณะเดียวกันมีรายงานว่าต้นสังกัดของ น.ท.กัมปนาท สังข์ทองจีน สังกัดกองทัพเรือภาคที่ 3 ผู้ต้องที่ถูกออกหมายจับอีกคนหนึ่ง ได้ประสานมายังคณะทำงานชุดคลี่คลายคดี เพื่อติดต่อขอเข้ามอบตัวภายใน 1-2 สัปดาห์นี้