คาดใช้สอยเทศกาลปีใหม่ขยายตัวแค่ 2.8 เปอร์เซ็นต์
ผลสำรวจกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พบว่า พฤติกรรมการใช้จ่ายช่วงเทศกาลปีใหม่ของคนไทยเปลี่ยนแปลงไป โดยใช้จ่ายเพื่อซื้อของให้ผู้อื่นเพียงร้อยละ 2.4 แต่ส่วนใหญ่ร้อยละ 31 จะใช้จ่ายส่วนตัว โดยแบ่งเป็นการใช้เงินจัดเลี้ยงสังสรรค์ ร้อยละ 21 ทำบุญ ร้อยละ 17 ซื้อเสื้อผ้ารองเท้าร้อยละ 13 และซื้อสินค้าคงทน เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ร้อยละ 13
ทั้งนี้คาดการณ์ว่าเงินจะสะพัดในช่วงเทศกาลปีใหม่ รวม 91,500 ล้านบาทโดยคาดว่า คนกรุงเทพจะใช้จ่าย 43,700 ล้านบาท และต่างจังหวัด 47,700 ล้านบาท
ส่วนแผนการใช้จ่ายเงินนั้นกลุ่มตัวอย่างเตรียมเงินสำหรับการท่องเที่ยวคนละ 11,000 บาท ซื้อสินค้าคงทน 5,100 บาท ซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย 3,000 บาท และจัดเลี้ยง 3,000 บาท ทั้งนี้ พบว่าประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยวางแผนเดินทางท่องเที่ยวน้อยลงในช่วงปีใหม่ โดยคนในกรุงเทพและปริมณฑลจะอยู่บ้าน ร้อยละ 50.3 และท่องเที่ยวร้อยละ 49.7
ผศ.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจฯ กล่าวว่า เทศกาลปีใหม่นี้ การจับจ่ายใช้สอยของประชาชนจะขยายตัวเพียงร้อยละ 2.8 ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 6 ปี เนื่องจากประชาชนระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้นจากสถานการณ์น้ำท่วม ซึ่งต้องเก็บเงินไว้ซ่อมแซมฟื้นฟูบ้านและซื้อเฉพาะสิ่งจำเป็น และชะลอการซื้อสินค้าที่มีมูลค่าสูง เช่น บ้าน รถยนต์ ซึ่งต่างจากปีก่อนๆ ที่มักซื้อสินค้าใหม่ในช่วงเทศกาลนี้ ทั้งนี้ สิ่งที่ประชาชนต้องการ คืออยากให้ดูแลราคาสินค้าและค่าครองชีพให้ต่ำลง พร้อมแก้ปัญหาเศรษฐกิจและเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กลับมาโดยเร็ว