วันนี้ กยน.เสนอมาตรการ 6 ข้อแก้น้ำท่วมต่อที่ประชุม ครม.
วาระสำคัญในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ ( 27 ธ.ค.) นอกเหนือไปจากการเสนอมาตรการเยียวยาผู้ประสบภัยของกระทรวงการคลัง เช่น การปรับเปลี่ยนมาตรการลดภาษีรถยนต์คันแรกให้สามารถเปลี่ยนการถือครองได้หากรถได้รับความเสียหายใจน้ำท่วม ขณะที่ผลการประชุมของ กยน.ที่ได้เห็นชอบแผนแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืนจะถูกเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในวันนี้เช่นเดียวกัน
ที่ประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำหรือ กยน.มีมติร่วมกันเห็นชอบให้นำร่างแผนปฏิบัติการเพื่อบรรเทาปัญหาอุทกภัยระยะเร่งด่วน เพื่อเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ (27 ธ.ค.) รวมมาตรการ 6 ด้าน ดังนี้
1.แผนงานการบริหารจัดการเขื่อนเก็บน้ำหลักและการจัดทำแผนบริหารจัดการน้ำของประเทศ
2.แผนฟื้นฟูและปรับปรุงประสิทธิภาพสิ่งก่อสร้างเดิมหรือตามแผนที่วางไว้แล้ว เพื่อป้องกันและบรรเทาปัญหาน้ำท่วม
3. แผนการพัฒนาคลังข้อมูล ระบบพยากรณ์ และเตือนภัย เพื่อให้มีข้อมูล มีแบบจำลองและมีองค์กรในการบริหารจัดการน้ำและการเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพ
4. แผนงานเผชิญเหตุเฉพาะพื้นที่ เพื่อฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่สำคัญให้มีความสามารถในการเตรียมพร้อมป้องกัน บรรเทาปัญหาอุทกภัย
5. แผนงานการกำหนดพื้นที่รับน้ำนอง และมาตรการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการใช้พื้นที่เพื่อการรับน้ำ
และ6. แผนงานปรับปรุงองค์กรเพื่อบริหารจัดการน้ำ เพื่อให้มีองค์กรบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ
พร้อมกันนี้ที่ประชุม กยน. ยังได้เห็นชอบให้นำร่างยุทธศาสตร์การบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำแบบบูรณาการและยั่งยืน กรณีลุ่มน้ำเจ้าพระยา เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้เช่นเดียวกัน รวม 2 มาตรการ ได้แก่ 1. การฟื้นฟูพื้นที่อนุรักษ์ป่าและระบบนิเวศ 2. การสร้างแหล่งกักเก็บน้ำ
ส่วนวาระสำคัญที่จะมีการเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาคือ การปรับเปลี่ยนมาตรการที่ได้มีการเสนอไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยนางเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ กระทรวงการคลังโดยกรมสรรพสามิต จะเสนอให้อนุมัติมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมกรณีที่รถยนต์ได้รับความเสียหาย โดยกรมกรมสรรพสามิตจะเสนอให้เจ้าของรถยนต์ที่จมน้ำสามารถเข้าโครงการ รถยนต์คันแรกของรัฐบาลได้ จากเดิมต้องเป็นผู้ที่ซื้อรถยนต์คันแรกเท่านั้น
สำหรับรถยนต์ที่เสียหายจากภัยน้ำท่วมจะมีหลักเกณฑ์ทุกอย่างเหมือนกับรถยนต์คันแรก เช่น รถยนต์นั่งมีขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 1,500 ซีซี. และรถปิกอัพ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ได้รับเงินคืน 100,000 บาท แต่ในกรณีนี้ได้เพิ่มเงื่อนคือ ต้องมีภาพถ่ายและเอกชนรับรองจากบริษัทประกันภัยและอู่ซ่อมรถยนต์ที่ได้มาตรฐาน ระบุว่า รถคันดังกล่าวถูกน้ำท่วมจริง
โดยได้เปิดกว้างไม่มีข้อจำกัดในหลายประเด็นเช่น ระดับน้ำที่ท่วมรถไม่จำเป็นถึงขั้นมิดหลังคา เช่น อาจจะท่วมเบาะนั่ง กรมสรรพสามิตก็จะอนุมัติให้ ซึ่งหากเจ้าของรถยนต์ไม่ต้องการใช้รถคันนี้ต่อไป ต้องการซื้อใหม่ ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นรถยนต์คันแรก จะเป็นคันที่ 2 หรือ 3 ก็ได้
นอกจากนี้กรมสรรพสามิตยังจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี ผ่อนปรนระเบียบการถือครองรถยนต์เป็นระยะเวลา 5 ปี ของโครงการรถยนต์คันแรกโดยจะอนุญาตให้เฉพาะรายที่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงผู้ถือครองรถ เช่น ในรายที่ประสบอุบัติเหตุ และเกิดความเสียหายต่อรถยนต์ ทำให้ไม่สามารถถือครองรถยนต์ได้ เป็นต้น เพื่อเป็นการปลดล็อกเงื่อนไขที่เป็นอุปสรรคต่อการสถาบันการเงิน บริษัทประกันภัยและเจ้าของรถยนต์
สำหรับความคืบหน้าของโครงการรถยนต์คันแรกนั้นมีตัวเลขไม่สูงมากนัก เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา เกิดภาวะน้ำท่วม ทำให้โครงการดังกล่าวไม่ได้รับความสนใจจากประชาชนมากนัก ปัจจุบันมียอดขอคืนเงินประมาณ 1,000-2,000 คันเท่านั้น