ป.ป.ช.ยืนยันโครงการมากกว่า 2 ล้าน ต้องยื่นบัญชี
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ประกาศหลักเกณฑ์วิธีการจัดทำและแสดงบัญชีรายการรับรายจ่ายของโครงการที่บุคคล หรือ นิติบุคคล เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานรัฐ ปี 2554 ฉบับที่สอง เพื่อบังคับให้คู่สัญญากับรัฐบาลในโครงการจัดซื้อจัดจ้างต้องแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล ต่อ กรมสรรพากร
จากเดิมกำหนดให้โครงการจัดซื้อจัดจ้างมูลค่า 500,000 บาทขึ้นไปต้องแสดงรายรับรายจ่ายต่อกรมสรรพากร แต่ ป.ป.ช.ประกาศแนวทางเพิ่มเติมด้วยการกำหนดเพดานที่ 2 ล้านบาท ต้องแสดงต่อกรมสรรพากรจนทำให้ถูกตั้งข้อสังเกตว่า จะเป็นการเอื้อให้โครงการที่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท
ขณะที่นายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช.ปฏิเสธข้อสังเกตในความหละหลวมของหลักเกณฑ์ที่อาจส่งผลให้โครงการที่ต่ำกว่าเกณฑ์หลุดพ้นจากการพิจารณา หรือเรียกว่า ปล่อยผี พร้อมย้ำว่า บุคลากรและหลักเกณฑ์ต่างเป็นเรื่องใหม่ที่จำเป็นต้องมีแนวทางนำร่องระหว่างเดือนเมษายน ปี 2555 ถึงเดือนเมษายน ปี 2556 เพื่อพัฒนาความพร้อมและความรอบด้าน ก่อนจะนำหลักเกณฑ์เดิมมาใช้อีกครั้งเพราะโครงการที่มีมูลค่า 500,000 บาทขึ้นไปมีมากเกินกว่าที่เจ้าหน้าที่จะรับภาระได้
ส่วนความคืบหน้าในการประกาศราคากลางโครงการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์หรือ อีออกชั่น เพื่อความโปร่งใส่ และ ตรวจสอบได้จากสาธารณะ ปรากฎว่า แนวทางที่นำเสนอคณะรัฐมนตรีถูกตีกลับให้กระทรวงการคลังหารือกับ ป.ป.ช. อีกครั้ง
นายภักดี กล่าวย้ำว่า ป.ป.ช. ยังคงอ้างอิงความจำเป็นที่ต้องชี้แจงกลับไปยังรัฐบาลว่า ทำได้เพียงให้ความร่วมมือตามแนวทางของ ป.ป.ช.เท่านั้น เนื่องจากกฎหมาย ป.ป.ช. ให้อำนาจในการร่างประกาศแล้วเสนอต่อรัฐบาลเท่านั้น ซึ่งเชื่อว่า หากประกาศราคากลางมีผลบังคับใช้จะเป็นสองมาตรการที่จะทำให้การจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐในอนาคตจะมีการทุจริตน้อยลง