สภาหอการค้าไทย เสนอใช้มาตรา 44 ปฏิรูปภาษีทั้งระบบ
วันนี้ (2 พ.ย.2558) ศ.พิเศษ กิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานคณะกรรมการกฎหมายภาษีและกฎระเบียบ สภาหอการค้าไทย ระบุระหว่างสัมนาการขับเคลื่อนปฏิรูปภาษีว่าแม้รัฐบาลจะเดินหน้าปฏิรูประบบภาษีโดยการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา แต่กังวลว่า กระบวนการอาจล่าช้าจึงเสนอให้ใช้มาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญชั่วคราว เร่งรัดกระบวนปฏิรูประบบภาษีทั้งระบบให้แล้วเสร็จภายในรัฐบาลนี้ โดยเฉพาะการยกร่างประมวลรัษฎากรฉบับใหม่แทนฉบับเดิม ซึ่งพึ่งพิงการใช้ดุลพินิจเจ้าหน้าที่มากเกินไปและจัดเก็บภาษีซ้ำซ้อนหลายรายการ พร้อมเสนอให้เชื่อมโยงข้อมูลผ่านบัตรประชาชนชุดเดียว จัดระบบข้อมูลผู้มีเงินได้ทุกคน เพิ่มฐานภาษีใหม่ ปรับปรุงกฎหมายภาษีท้องถิ่นเพื่อขยายฐานภาษี รวมทั้งควรลดหรือยกเลิกการจัดเก็บภาษีจากเงินปันผลและลดอัตราภาษีบุคคลธรรมดาให้เท่ากับอัตราภาษีนิติบุคคลที่ร้อยละ 20 เป็นต้น คาดว่าหากรัฐบาลสามารถปฏิรูประบบภาษีได้จะช่วยเพิ่มการจัดเก็บรายได้ไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท โดยไม่ต้องขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
ปัจจุบันมีผู้มีเงินได้ประมาณ 35 ล้านคน และถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษีประมาณ 10.7 ล้านคน แต่มีผู้เสียภาษีจริงเพียง 3 ล้านคนเท่านั้น