นายกฯ ไม่สนสูตรเลือกตั้งใหม่ ทำพรรคการเมืองใดเสียเปรียบ ย้ำโรดแมปเดิม 6-4 6-4 
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ประจำคืนวันศุกร์ที่ 6 พ.ย.2558 ถึงกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญที่เดินหน้าอยู่ในขณะนี้ว่าได้ติดตามรายละเอียดอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของระบบเลือกตั้งจัดสรรปันส่วนผสม นายกฯ ระบุว่าแม้แต่ละสูตรที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของ กรธ.นั้นอาจทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบของแต่ละพรรคการเมืองก็ตาม ขอให้ระบบที่กำลังดำเนินการร่างอยู่คัดสรรผู้แทนและพรรคการเมืองที่มีความรู้ความสามารถและได้รับการยอมรับจากประชาชน พร้อมกันนั้นได้ย้ำถึงโรดแมปไปสู่การเลือกตั้งตามสูตร 6-4 6-4 ว่ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ขณะเดียวกันได้กล่าวถึงการทำงานร่วมกันของแม่น้ำ 5 สาย 5 องค์กร ว่าต้องเดินหน้าไปพร้อมๆกัน และแม้จะยอมรับอิสระในการเสนอความเห็น แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่าเสนอความเห็นแล้วก็ต้องดำเนินการตามมติ
"อยากจะกราบเรียนว่าทั้ง 5 สาย ต้องไปพร้อมๆ กัน ในแนวทางอันเดียวกันทั้งสิ้น ท่านมีอิสระในการเสนอความคิดเห็นกันออกมาแล้วก็ใช้ข้อยุติ หรือมติ ของที่ประชุมต่างๆ ในการดำเนินการ เราอย่าทำให้ประเทศเสียหายต่อไป ด้วยคำพูดคำจาอะไรต่างๆ ก็แล้วแต่" นายกฯ กล่าว
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวขอโทษกรณีที่กล่าววาทะ "ปิดประเทศ" ในที่ประชุมแม่น้ำ 5 สาย และปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นเจตนาที่จะดำเนินการดังกล่าว เป็นเพียงการกล่าวให้ฟังว่าหากทุกฝ่ายไม่ร่วมมืออาจทำให้ประเทศเดินไปสู่จุดนั้นได้ พร้อมเตือนการเคลื่อนไหวต่อต้าน การบิดเบือนข้อมูล ที่จะนำไปสู่ความไม่สงบอีก ซึ่งอาจจะทำให้ส่งผลกระทบต่อโรดแมปที่จะเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง พร้อมกล่าวย้ำถึงกลุ่มที่เคลื่อนไหวเรียกร้องให้แก้ปัญหาความเดือดร้อนต่างๆ ขอให้ใช้ช่องทางที่ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากขณะนี้ พ.ร.บ.การชุมนุม ได้มีผลบังคับใช้แล้ว จึงวอนให้ประชาชนระมัดระวังในข้อนี้ด้วย
"เรื่องปิดประเทศ ผมเพียงแต่พูดให้ฟังเท่านั้นเองว่าถ้ายังไม่ร่วมมือกันจะไปสู่ตรงจุดนั้นซึ่งไม่ใช่เป็นเพราะผม ก็ขอโทษที่ทำให้ตกใจ เจตนาคือต้องการเตือนทุกคนว่าหากมีการต่อต้านบิดเบือนข้อมูลสร้างความขัดแย้ง บ้านเมืองไม่สงบขึ้นมาอีกก็จะไม่สามารถหลุดพ้นเหตุการณ์เดิม ๆ ได้ เลือกตั้งก็ไม่ได้ เดินหน้าประเทศก็ไม่ได้" นายกฯ ระบุ
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงการใช้มาตรา 44 ออกคำสั่ง คสช.คุ้มครองผู้ปฏิบัติหน้าที่ในการระบายข้าวในสต็อกรัฐบาลของโครงการรับจำนำข้าว ว่าไม่ได้เป็นการนิรโทษกรรมผู้ที่เกี่ยวข้องล่วงหน้าตามที่มีกระแสบิดเบือน แต่เป็นเรื่องการตรวจสอบการระบายข้าวเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย โดยคำสั่งนี้จะคุ้มครองเจ้าหน้าที่ข้าราชการที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากมีการข่มขู่จากผู้เกี่ยวข้องว่าจะมีการฟ้องร้องในภายหลัง อย่างไรก็ตาม นายกฯ ย้ำว่าหากเจ้าหน้าที่ดำเนินการทุจริตก็จะยังถูกฟ้องร้องดำเนินการตามกฎหมายได้เช่นเดิม
ส่วนความคืบหน้าในการแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมาย (IUU) นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่าได้ดำเนินการในหลายส่วน โดยรัฐบาลได้เห็นชอบชุดกฎหมายที่จะพลิกโฉมการทำประมงไทย ได้แก่ พ.ร.ก.การประมง แผนบริหารจัดการประมงทะเล และแผนระดับชาติในการดำเนินการแก้ปัญหาและป้องกัน พร้อมย้ำว่ารัฐบาลได้ทำงานอย่างหนักเพื่อเร่งแก้ไขปัญหา IUU และปัญหาค้ามนุษย์ในภาคประมง รวมไปถึงในโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปสัตว์น้ำ ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในทางปฏิบัติและเป็นรูปธรรม การตรวจท่า การตรวจเรือประมงเข้า-ออกท่าทั้งในและต่างประเทศ ตรวจสอบการค้ามนุษย์ในเรือประมง และในโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูป ซึ่งการแก้ปัญหาทั้งหมดจะเห็นผลชัดเจนภายในระยะ 3-6 เดือนนี้ พร้อมเปิดเผยว่าต้นปี 2559 คณะผู้แทนจาก EU จะมาเยือนไทยอีกครั้งเพื่อติดตามประเมินผล
นโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ามีโรงเรียน พร้อมสมัครใจเข้าร่วมจำนวน 4,100 โรงเรียน ทั่วประเทศ และกระทรวงศึกษาธิการจะส่ง Smart Trainers เพื่อเป็นพี่เลี้ยงในห้โรงเรียนวางแผนการเรียนการสอน และจัดตารางกิจกรรม รวมทั้ง แก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในการนำนโยบายนี้ไปใช้ในโรงเรียน