ศาลปกครองไต่สวนระงับมติขึ้น NGV-LPG
ศาลปกครองกลางใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงในการพิจารณาไต่สวนคดีที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคฟ้องนายกรัฐมนตรีและผู้เกี่ยวข้อง เพื่อขอให้เพิกถอนมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 4 ต.ค.54 ที่อนุมัติให้ขึ้นราคาก๊าซ NGV และ LPG รวมถึงขอให้เปิดเผยต้นทุนราคาก๊าซ NGV
ระหว่างการพิจารณาของศาลฯ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคระบุว่า การปรับขึ้นราคาก๊าซ NGV และ LPG ของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ไม่เป็นไปตามกลไกของตลาด และไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค เนื่องจาก ปตท.เป็นผู้คุมกลไกราคา ตั้งแต่การจัดหา การผลิต การจำหน่าย ซึ่งน่าจะควบคุมราคาให้ถูกได้
ขณะที่นายเติมชัย บุนนาค ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) แย้งว่า ราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็นไปตามกลไกราคาตลาดโลก อย่างไรก็ตาม ศาลยังไม่มีคำสั่งในคดีนี้แต่อย่างใด
การฟ้องศาลปกครองครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคได้ตั้งคำถามถึงต้นทุน NGV และ LPG แท้จริงอยู่ที่เท่าไร จึงทำให้บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ต้องประสบปัญหาขาดทุน ทั้งที่ราคาตลาดหลัก เช่น เฮนรี่ ฮับ ซึ่งเป็นราคากลางของสหรัฐฯ ถูกกว่ามาก
ขณะที่นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และนายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการอิสระด้านพลังงาน ระบุว่า ราคาก๊าซในสหรัฐฯ ที่ลดลงเกิดจากนโยบายภายพลังงานในประเทศ จึงไม่สามารถนำมาอ้างอิงได้ ขณะที่สถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยเคยศึกษาและสรุปราคากลางของ NGV ควรจะอยู่ที่ ประมาณ 15 บาทต่อกิโลกรัม
สำหรับการขึ้นราคาก๊าซ NGV ที่กลายเป็นประเด็นฟ้องร้องครั้งนี้ได้ปรับขึ้นเดือนละ 50 สตางค์ต่อกิโลกรัม ตั้งแต่วันนี้ (16 ม.ค.) จนถึงสิ้นปี 2555 รวม 6 บาท ส่วนหนึ่งเกิดจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่กำลังติดลบลงเรื่อยๆ ล่าสุดติดลบมากถึง 14,550 ล้านบาท เนื่องจากนโยบายรัฐบาลชุดก่อนๆ ที่นำเงินมาอุดหนุน NGV ในอัตรากิโลกรัมละ 2 บาท และยังชดเชยนำเข้า LPG อีกเดือนละ 2,153 ล้านบาท