แกะรอยเส้นทาง
นายอาทรีส ฮุสซัน ถือเป็นตัวสำคัญที่ทำให้ตำรวจขยายผลไปจนพบแหล่งซุกซ่อนส่วนประกอบวัตถุระเบิดในอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ริมถนนพระราม 2 ตำบลกาหลง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นสถานที่นายอาทริสเช่าไว้เก็บของ โดยผลการตรวจค้นพบปุ๋ยยูเรียชนิดเกล็ดน้ำหนักกว่า 4,000 กิโลกรัม และ แอมโมเนียมไนเตรต 260 ลิตร นอกจากนี้ยังพบรองเท้าแตะ พัดลมตั้งโต๊ะ 400 กล่อง และ กระดาษเอ 4 อีก 240 กล่อง ซึ่งตำรวจคาดว่า เป็นธุรกิจที่ใช้บังหน้าและใช้ปะปนในการส่งของออกนอกประเทศ
สำหรับส่วนประกอบวัตถุระเบิดที่พบ ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิด บอกว่า ยังไม่สามารถทำให้เกิดการระเบิดได้ เพราะขาดตัวจุดฉนวน แต่หากมีการประกอบเป็นวัตถุระเบิด จากส่วนประกอบขนาดนี้จะมีอานุภาพรุงแรงสร้างความเสียหายในพื้นที่กว่า 2 กิโลเมตร
ตำรวจเปิดเผยผลการสอบสวน นายอาทริส รับสารภาพว่า อยู่ในกลุ่มฮีสบัลเลาะห์จริง และบอกว่า ก่อนหน้านี้กลุ่มฮีสบัลเลาะห์ เตรียมเข้ามาก่อเหตุในประเทศไทยจริง แต่ได้ยกเลิกแล้ว
ฝ่ายสืบสวนเปิดเผยข้อมูลว่า สารประกอบระเบิดที่ตรวจพบครั้งนี้คล้ายกับที่พบในรถบรรทุกที่เตรียมก่อเหตุสถานmทูตสหรัฐอเมริกา และ อิสราเอล เมื่อปี 2537 แต่เกิดอุบัติเหตุก่อน ซึ่งตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นกลุ่มเดียวกัน
สำหรับชายต่างประเทศตามภาพสเก็ตซ์ที่ตำรวจเผยแพร่ก่อนหน้านี้ สื่อมวลชนของประเทศอิสราเอล เปิดเผยว่า คือ นายนาฮิม ฮาริส สมาชิกฮีสบัลเลาะห์ ผู้ที่สำนักงานความมั่นคงอิลราเอลเคยเผยแพร่เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งระบุว่าตอนนั้นเขามีหน้าที่รวบรวมสายลับฮีสบัลเลาะห์ทั่วโลก
จากหน่วยข่าวตำรวจพบว่ากลุ่มนี้เข้ามาเตรียมการในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 4 ปี ทั้งการหาข้อมูล หาสถานที่ส่งของ และ รวบรวมส่วนประกอบต่างๆ สำหรับกลุ่มนายอาทริส ถือว่า อยู่ในกลุ่มเตรียมการ ส่วนกลุ่มที่จะเข้ามาประกอบวัตถุระเบิดและก่อความรุนแรง จะเป็นอีกชุด ซึ่งเป้าหมายคือ แหล่งชุมชนชาวยิวในประเทศไทย และ แหล่งที่พักชาวต่างชาติวัตถุประสงค์เพื่อแก้แค้น ที่หัวหน้ากลุ่มถูกลอบสังหารเมื่อปี 2551