ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"กิตติรัตน์-ดร.โกร่ง" ประสานเสียงเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ-ปรับปรุงแผนจัดการน้ำ

เศรษฐกิจ
17 ม.ค. 55
07:03
62
Logo Thai PBS
"กิตติรัตน์-ดร.โกร่ง" ประสานเสียงเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ-ปรับปรุงแผนจัดการน้ำ

ในระหว่างงานสัมมนา"CEO Forum" ที่จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ซึ่งมีผู้บริหารระดับสูงของบริษัทชั้นนำของโลกมาพบและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้บริหารภาครัฐและเอกชนของไทย เกี่ยวกับการลงทุน และภาวะเศรษฐกิจโลก อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า รัฐบาลมีส่วนสำคัญที่จะส่งเสริมการขับเคลื่อนของภาคธุรกิจ ขณะนี้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุการปรับคณะรัฐมนตรีจะไม่กระทบความเชื่อมั่นและการทำงานของภาครัฐ

การปาฐกถาพิเศษของนายโทนี่ แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีประเทศอังกฤษ ภายในงาน "CEO Forum" ซึ่งเป็นกิจกรรมสำคัญในการจัดงานบีโอไอแฟร์ 2011 (2554) กล่าวถึง บทเรียน 5 ประการของรัฐบาล โดยมีสาระสำคัญในการทำงานขับเคลื่อนประเทศร่วมกันของรัฐบาล เอกชน ประชาชน ที่สามารถอยู่ร่วมกันได้บนความคิดที่แตกต่าง พร้อมระบุว่า รัฐบาลต้องมีหน้าที่ในการสนับสนุนภาคธุรกิจให้เกิดความเชื่อมั่นและกำหนดค่าจ้างที่เป็นธรรม

ขณะเดียวกันต้องจัดสรรระบบสวัสดิการที่เป็นธรรมและมีความยืดหยุ่นสูงต่อการปรับปรุงพัฒนา ทั้งนี้นายแบลร์ยังกล่าวถึงปัญหาเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปว่าการแก้ปัญหาของภาครัฐต้องมีเจตนารมย์ที่แน่วแน่ เพราะเป็นปัญหาที่ท้าทายและต้องมีการปฏิรูปโครงสร้างในระยะยาว

ขณะที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่าแม้ว่าไทยจะเพิ่งผ่านพ้นวิกฤตน้ำท่วม แต่ไม่เป็นเงื่อนไขที่รัฐบาลจะต้องชะลอการกระตุ้นเศรษฐกิจแต่อย่างใด โดยเฉพาะเฉพาะนโยบายขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท

พร้อมกันนี้ ยังระบุว่า พร้อมกับพิจารณาข้อเสนอของนายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ หรือ กยอ. ที่เสนอให้ กองทุนวายุ ของคลัง เข้าซื้อหุ้น ของบริษัท ปตท. และการบินไทย ให้หลุดจากความเป็นรัฐวิสาหกิจ และ เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ระดับหนี้ต่อสาธารณะลดลงได้ ส่วนข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่เชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและการทำงานของรัฐบาล

 
ขณะที่นายวีระพงษ์ ระว่า รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งปรับปรุงระบบบริหารจัดการน้ำ รวมถึงระบบโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อช่วงชิงประโยชน์จากการที่เอเชียจะเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจโลก และ เพิ่มสัมพันธ์ทางการค้า กับจีน และ รัสเซีย ทดแทนตลาดสหรัฐ และยุโรป

ทั้งนี้นายวีระพงษ์ ได้ใช้เวทีดังกล่าวตำหนิการทำงานธนาคารแห่งประเทศไทยว่า เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานล่าช้าเพราะรัฐบาลต้องตั้งงบประมาณเพื่อชดใช้หนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พร้อมขอให้ประชาชนอย่าได้กังวลการดำเนินการพระราชกำหนด และการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ เพื่อให้ประเทศ ไทยก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และรับมือการเปลี่ยนแปลงของระบบเศรษฐกิจโลก

 
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง