“ยูเอ็น” ประเมินผู้อพยพเข้ายุโรปทางเรือปีนี้ประมาณ 5 แสนคน
ทหารจากกองทัพเรือของอิตาลีลากจูงเรือที่มีผู้อพยพจากโซมาเลีย และเอริเทรีย จำนวน 540 คนเข้าเทียบท่าที่เมืองซาเลอร์โน ทางตอนใต้ของประเทศ เพื่อให้ความช่วยเหลือและคัดแยกสัญชาติของผู้อพยพ
ปัญหาผู้อพยพทางเรือที่พยายามเข้าไปตั้งถิ่นฐานในยุโรปกำลังเข้าขั้นวิกฤติ ซึ่งองค์การกิจการทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดองค์การสหประชาชาติ ประเมินว่าปี 2558 จะมีผู้อพยพทางเรือในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนประมาณ 5 แสนคน และอาจมีผู้อพยพต้องเสียชีวิตอีกหลายพันคน หากหน่วยงานและประเทศต่างๆ ในยุโรปไม่ดำเนินมาตรการปราบปรามเครือข่ายลักลอบขนผู้อพยพโดยเร็ว
ขณะที่นายแมททีโอ เรนซี นายกรัฐมนตรีตาลี เรียกร้องให้สหภาพยุโรปใช้มาตรการที่เป็นรูปธรรมในการเร่งปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะในประเทศเขตซับ-ซาฮารา ของทวีปแอฟริกา โดยมีองค์การสหประชาชาติให้การสนับสนุน
นายบัน คี-มูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติระบุว่า เขารู้สึกตกใจเกี่ยวกับโศกนาฎกรรมเรือผู้อพยพอับปางในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตไปกว่า 900 คน
ขณะที่ในปี 2558 ทางองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) คาดการณ์ว่า ยอดผู้อพยพทางเรือที่อาจเสียชีวิตในปีนี้จะสูงถึง 30,000 คน หรือสูงกว่า 10 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ที่มีผู้เสียชีวิตจำนวน 3,279 คน
สำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรปนัดฉุกเฉินในวันนี้ (23 เม.ย.2558) นักการทูตเชื่อว่าผู้นำสหภาพยุโรปจะหันกลับไปใช้ปฏิบัติการกู้ภัย และช่วยเหลือผู้อพยพทางเรืออีกครั้ง โดยเพิ่มงบประมาณและทรัพยากรที่จำเป็น สำหรับปฏิบัติการขึ้นเป็น 2 เท่า หลังจากประกาศยุติปฏิบัติการไปเมื่อปีที่แล้ว
นอกจากนี้ ยังอาจจะขยายขอบเขตของการลาดตระเวนและกู้ภัย ไปในพื้นที่ใกล้กับชายฝั่งของนอร์ท แอฟริกา ให้มากขึ้น พร้อมทั้งการใช้มาตรการปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะในประเทศลิเบีย เพื่อลดปัญหาผู้อพยพในอนาคต