ผู้นำฝรั่งเศสประกาศทำลายล้าง 
วันนี้ (17 พ.ย.2558) นายฟรองซัวส์ ออลลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส แถลงแนวทางปราบปรามกลุ่มไอเอสและการเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังเหตุร้ายในประเทศ โดยขยายเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปอีก 3 เดือน และอาจจะเพิ่มอำนาจให้ตำรวจผู้พิพากษา สามารถยกเลิกการถือสัญชาติฝรั่งเศส สำหรับผู้มี 2 สัญชาติที่ต้องสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย รวมถึงการร่นระยะเวลาให้สามารถเนรเทศชาวต่างชาติ ที่เป็นภัยคุกคามความมั่นคงของชาติได้เร็วกว่าเดิม นอกจากนี้อาจจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้ฝรั่งเศสมีเครื่องมือที่เหมาะสมในยามที่ไม่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และจะเสนอให้ยุโรปร่วมมือกันต่อต้านการค้าอาวุธและเพิ่มบทลงโทษให้หนักขึ้น
ผู้นำฝรั่งเศสระบุว่า มีกำหนดการเดินทางไปหารือกับนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ถึงแนวทางการปราบปรามกลุ่มไอเอส โดยเบื้องต้นสหรัฐอเมริกาและฝรั่งเศสได้ทำข้อตกลงฉบับใหม่ร่วมกันในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรอง ซึ่งหลังเกิดเหตุก่อการร้ายในกรุงปารีสเมื่อวันศุกร์ที่ 13 พ.ย. ฝรั่งเศสได้ถล่มกลุ่มไอเอสในซีเรียอย่างหนักด้วยการทิ้งระเบิดโจมตีเป้าหมายถึง 20 จุด ได้แก่ ศูนย์บัญชาการ ค่ายฝึกและคลังเก็บอาวุธ และในวันที่ 19 พ.ย.ฝรั่งเศสจะส่งเรือบรรทุกเครื่องบินชาร์ล เดอ โกลไปเสริมกำลังอีก
ขณะที่มีการวิเคราะห์กันว่าสาเหตุที่กลุ่มไอเอสหันมาโจมตีเป้าหมาย ในกรุงปารีสของฝรั่งเศสเป็นการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ เนื่องจากฐานที่มั่นของไอเอสทั้งในอิรักและซีเรียได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการโจมตีของกองกำลังพันธมิตร ซึ่งนำโดยสหรัฐอเมริกา ทำให้กลุ่มไอเอสเปลี่ยนเป้าหมายไปโจมตีเมืองใหญ่ๆ ในยุโรป ที่ง่ายต่อการลงมือและยังเป็นข่าวที่ได้รับความสนใจไปทั้งโลก ซึ่งสร้างชื่อให้กับกลุ่มไอเอสมากขึ้น