พบ
ผศ.ศรีรัช ลาภใหญ่ อาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดผยผลวิจัยบุหรี่กานพลูกับสถานการณ์ยาสูบในประเทศไทยว่า บุหรี่ชนิดนี้เริ่มตีตลาดในไทยตั้งแต่ปี 2553 โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 60 กระจายตัวตามแหล่งขายปลีกบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนต์และตลาดนัด ราคาถูกกว่าบุหรี่ทั่ว ๆไป แบ่งเป็นมวน หรือ จัดเป็นแพค 3-4 มวนราคา 20 บาท ซึ่งบุหรี่ชนิดนี้มีผลิตภัณฑ์จูงใจวัยรุ่น เช่นสอดแทรกเม็ดมิ้นเข้าไปในมวนบุหรี่มีการทำกลุ่มบุหรี่ให้เล็กเท่ากล่องลิปติก เพื่อให้วัยุร่นเก็บเข้ากระเป๋าได้ง่ายและจูงใจด้วยการออกแบบสีของกล่องบุหรี่ให้มีสีสันสดใส รวมทั้งใช้คำโฆษณาที่ก่อให้เกิดการเข้าใจผิด และทำให้เชื่อผิดๆ ด้วยคำโฆษณาบนกล่องบุหรี่ว่า โลนิโคติน และ บุหรี่อ่อน
ทั้งนี้พบว่า มีการจำหน่ายบุหรี่ชนิดนี้ใน 8 เขตของกทม. ได้แก่ เขตบางกะปิ บางรัก ปทุมวัน พระนคร ดินแดง จตุจักร ราชเทวี ป้อมปราบศัตรูพ่ายและ ปริมณฑล 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนนทุบรี จังหวัดปทุมธานี
นพ.หทัย ชิตานนท์ ประธานสถาบันส่งเสริมสุขภาพไทย บอกว่า เส้นทางการลักลอบบุหรี่ชนิดนี้มาจากอินโดนีเซียผ่านช่องแคบมะละกา ขึ้นฝั่งมาเลเซียที่กัวลาเซรังงอ และส่งมาเก็บที่เกาะตรังกานู ก่อนส่งเข้าไทย ทางฝั่งทะเลจังหวัดสตูลและขนส่งด้วยรถมาที่อำเภอหาดใหญ่ ก่อนนำเข้ากรุงเทพมหานคร ซึ่งบุหรี่กานพลูมีใบยาสูบร้อยละ 60 และมีกานพลูร้อยละ 40 บุหรี่กานพลูกานพลูปลดปล่อยกลิ่นหอมของสารอูกันนอล ซึ่งเป็นยาชาเฉพาะที่เมื่อสูบเข้าไปแล้วสารชนิดนี้จะทำให้ส่วนบนของหลอดลมในปอดของผู้สูบชาเป็นเหตุให้ผู้สูบสูดส่วนที่แน่นที่สุดของควันลงไปส่วนที่ลึกที่สุดของปอด ดังนั้นนักวิชาการจึงเห็นพ้องกันว่า เมื่อเด็กสูบบุหรี่ชนิดนี้จะติดได้เร็วกว่า