เร่งผลักดัน พ.ร.บ.ยางฯ แก้ปัญหาราคายางตกในระยะยาว
หลังเข้ารับตำแหน่งได้เพียงแค่ 1 วัน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงแนวคิดในการเร่งผลักดันร่างพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย โดยเชื่อว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาราคายางในระยะยาว
ร่างพระราชบัญญัติการยางฯ ฉบับนี้จะรวมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับยางพารา ได้แก่ สถาบันวิจัยยาง องค์การสวนยาง และกองทุนสงเคราะห์สวนยาง มารวมเป็นหน่วยงานเดียวกัน คือ "การยางแห่งประเทศไทย" เพื่อให้การทำงานเรื่องยางพารามีเอกภาพและความคล่องตัว
ร่างพระราชบัญญัติการยางฯ ฉบับนี้ เป็นแนวคิดของรัฐบาลในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่ต้องชะลอออกไปเพราะปัญหาการเมือง จากนั้นรัฐบาลในสมัยของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผลักดันร่างพระราชบัญญัติการยางฯ จนผ่านวาระแรก แต่มีการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่เสียก่อน
สาระสำคัญของร่างกฎหมายนี้คือการจัดตั้งการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ให้มีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจ เพื่อดูแลการบริหารยางพาราของประเทศทั้งระบบ ตลอดจนการพัฒนายางพารา โดยจะมีการจัดตั้งกองทุนพัฒนายางพารา
นายวิทย์ ประทักษ์ใจ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง ระบุว่า ร่างพระราชบัญญัติการยางฯ ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว และรอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์นำเสนอคณะรัฐมนตรี ก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาอีกเป็นปี
นายประยงค์ รณรงค์ เกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดนครศรีธรรมราช เห็นด้วยกับร่างดังกล่าว แต่ควรปรับปรุงในบางประเด็น โดยเฉพาะการใช้เงินกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางที่ผู้ส่งออกยางนำเงินเข้าสบทบ ซึ่งในความเป็นจริงผู้ส่งออกบวกเงินเพิ่มจากเกษตรกรไว้แล้วนั่นเอง ขณะนี้มีเงินในกองทุนกว่า 10,000 ล้านบาท
สำหรับเงินในกองทุนเดิมกำหนดการใช้เงินไว้ 3 เรื่อง คือใช้เพื่อการวิจัย, บริหารจัดการกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง, เงินสงเคราะห์ให้เกษตรกรที่โค่นยางเพื่อปลูกใหม่ ซึ่งมีอัตราส่วนมากสุด ร้อยละ 85 โดยเกษตรกรเกรงว่ากฎหมายใหม่อาจเอื้อให้กลุ่มทุนเข้าถึงเงินดังกล่าว และนำไปใช้ประโยชน์มากกว่าเกษตรกร