เกษตรกรร้องขอเปิดจุดรับจำนำมันย่อย
นายอัครวัฒน์ กิติพงษ์ภากรณ์ ตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวถึงกรณีการเปิดโครงการรับจำนำมันสำปะหลังวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ ว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนในหลายเรื่องลานมันและโรงแป้งที่เป็นจุดรับซื้อ โดยในส่วนของโรงแป้ง ยังไม่สามารถตกลงกับหน่วยงานของรัฐ เรื่องของอัตราแปรสภาพหัวมัน และค่าแรงในการแปรสภาพ รวมถึงเงื่อนไขในการรับจำนำมันสำปะหลัง และการที่รัฐบาลกำหนดให้ลานมันเข้าร่วมโครงการก่อนโรงแป้ง อาจจะทำให้ไม่สามารถรองรับความต้องการของเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวผลผลิตในช่วงนี้ จึงต้องการให้รัฐบาลโดยองค์การคลังสินค้า หรือ อคส.เปิดจุดรับจำนำย่อยในบางพื้นที่ที่มีลานมันหรือโรงแป้งน้อยเกินไป เช่น จังหวัด ยโสธร ศรีษะเกษ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี สุรินทร์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเกษตรกร ไม่ต้องรับภาระค่าขนส่งในการจำนำนอกพื้นที่
ด้าน นายเสรี เด่นวรลักษณ์ นายกสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย กล่าวว่าว่า โครงการรับจำนำมันสำปะหลังของรัฐบาลจะไม่ส่งผลกระทบกับผู้ส่งออกมันสำปะหลังเหมือนกับข้าว เนื่องจากราคาที่รับจำนำนั้นยังอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ที่ราคา 2.50-3 บาท แต่เป็นห่วงเรื่องการบริหารจัดการของรัฐบาล ทั้งเรื่องของการระบายหากเก็บไว้ในปริมาณมาก และหากเก็บไว้นานอาจจะส่งผลให้แป้งมันเสื่อมคุณภาพเหมือนโครงการรับจำนำในอดีต
ขณะที่ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวยืนยันว่าพร้อมรับจำนำมันสำปะหลังเดือนกุมภาพันธ์นี้ และขณะนี้ได้เร่งประกาศรับสมัครโรงงานมันสำปะหลังให้ครอบคลุมพื้นที่ปลูกมันจำนวน 47 จังหวัด เข้าร่วมโครงการ เบื้องต้นได้กำหนดปริมาณการรับจำนำไว้ที่ 20 ล้านตัน ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ถึง 31 พฤษภาคม ราคารับจำนำเริ่มที่กิโลกรัมละ 2.75 บาท และจะปรับเพิ่มขึ้นทุกเดือน เดือนละ 5 สตางค์ สูงสุดในเดือนสุดท้ายกิโลกรัมละ 2.90 บาท จากปัจจุบันที่มีราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 2.20-2.50 บาท