“อนุดิษฐ์” โต้ “มัลลิกา” ฟ้องละเว้นฯเว็บหมิ่น ต้องรับผิดชอบคำพูดตนเอง
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวถึงกรณี น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แจ้งความเอาผิดนายกรัฐมนตรี และ ฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ฐานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่เรื่องการปราบปรามเว็บหมิ่นเบื้องสูงว่า เรื่องนี้มีความชัดเจนอยู่แล้วที่ผ่านมายืนยันว่า กระทรวงไอซีทีดำเนินการปราบปรามต่อเนื่อง แต่ไม่เข้าใจว่าสิ่งที่ น.ส.มัลลิกา พยายามทำอยู่เกิดประโยชน์อะไรเพราะประเด็นเหล่านี้ เป็นเรื่องที่สังคมมีความเข้าใจในการแก้ปัญหาของรัฐบาลอยู่แล้ว แต่การพยายามจุดประเด็นเหล่านี้ไม่ได้เกิดผลดีต่อการบริหารจัดการแน่นอน ถ้าสิ่งที่พูดเป็นเท็จ หรือ ไม่ได้เอาเรื่องที่ถูกต้องมาพูด และ ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด
"ผมยืนยันว่าจะไม่ปล่อยให้ น.ส.มัลลิกาได้ทำเรื่องแบบนั้นอย่างเสรีโดยไม่ต้องรับผิดชอบ สิ่งที่ น.ส.มัลลิกา พูดต้องรับผิดชอบคำพูดของท่านด้วย และ เมื่อคิดว่าจะไปฟ้องคนอื่น ท่านมั่นใจหรือยังว่าสิ่งที่ท่านพูดนั้นได้พูดข้อเท็จจริงท่านจะต้องไปให้การต่อศาลด้วยเช่นกัน"
รมว.ไอซีที กล่าวอีกว่า เหมือนคราวที่แล้วไม่ได้พูความจริง และ ประณามรวมถึงกล่าวหาข้าราชการไอซีทีว่าละเว้น ซึ่งตนเองในฐานะเจ้ากระทรวงจึงยินยอมให้เกิดการกระทำดังกล่าวไม่ได้ ครั้งนี้เช่นเดียวกันที่บอกว่ากระทรวงไม่ทำงาน หรือ ละเลย แต่เรามีหลักฐานจากศาลฯที่ได้วินิจฉัยการปิดเว็บไซต์ทุกสัปดาห์ มีหลักฐานมากมายและไม่ได้เป็นอย่างที่ น.ส.มัลลิกาพูด และไม่ใช่เรื่องที่ดีที่จะต้องเอาเรื่องนี้มาพูดประชาสัมพันธ์หรือประโคมข่าวแต่อย่างที่ท่านพูด ต้องรับผิดชอบคำพูดตัวเองด้วย
โดยเรื่องนี้มีข้อมูลสถิติชัดเจนแต่เรื่องเหล่านี้เป็นข้อมูลลับถ้าใครที่มีหน้าที่โดยตรงในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลสามารถทำเรื่องมาได้จะทำรายงานใส่แฟ้มรายงานให้ ซึ่งส่วนตัวอยากบอกข้อเท็จจริงว่า ไม่มีข้าราชการคนไหนที่ต้องการละเลยการทำงานในหน้าที่ที่ตัวเองรับผิดชอบโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้
"ยืนยันว่าข้อความหมิ่นลดลงเรื่อย ๆ แต่ต้องยอมรับว่าทุกครั้งที่มีการจุดกระแส หรือ ปลุกระดมเรื่องดังกล่าว สิ่งเหล่านี้ นักวิชาการหลายคนได้วิเคราะห์วิจัยชัดเจนว่าจะทำให้คนที่ไม่เคยรับรู้ ถูกกระตุ้น และ เข้าไปดูข้อมูลทางอ้อม และ ทำให้จำนวนการเข้าไปเกี่ยวข้องสูงขึ้น ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าการออกมาเคลื่อนไหว ตอนนี้พยายามโยงไปเกี่ยวข้องกับการออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มนิติราษฎร์ที่พยายามจะแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งเรื่องนี้เป็นคนละเรื่องกัน" รมว.ไอซีทีกล่าวทิ้งท้าย