นายวิมล กาญจนะ ประธานจัดการแข่งขันลีกภูมิภาค พร้อมด้วยนายนรินทร์พงศ์ จินาภักดิ์ ประธานที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย ร่วมกันแถลงข่าวประกาศบทลงโทษทีมสตูลยูไนเต็ด กรณีแฟนบอลรุมทำร้ายผู้ตัดสิน ซึ่งผลการพิจารณาของคณะอนุกรรมการมารยาท วินัย และข้อประท้วงของลีกภูมิภาค มีมติลงโทษห้ามสตูลเข้าร่วมแข่งขันในรายการที่สมาคมกีฬาฟุตบอลรับรองเป็นเวลา 3 ปี ปรับรวม 315,000 บาท โดยโทษแบนจะมีผลตั้งแต่ฤดูกาลหน้า แต่ในปีนี้สตูลยังแข่งขันรอบแชมเปียนส์ลีกได้ แต่ห้ามแข่งขันในบ้าน 2 นัด
นอกจากนี้ยังลงโทษห้ามแฟนบอลเข้าชมเกม และหากเจ้าหน้าที่สามารถนำตัวแฟนบอลผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี จะลงโทษห้ามแฟนบอลคนดังกล่าวเข้าชมเกมตลอดชีวิต และในกรณีที่สตูลติด 2 ทีมแรกของกลุ่ม A และได้สิทธิ์ไปเลื่อนชั้นไปเล่นยามาฮ่าลีกวันฤดูกาลหน้า จะไม่ได้สิทธิ์เลื่อนชั้นและทีมอันดับที่ 3 ของกลุ่มเอ จะได้สิทธิ์เลื่อนชั้นแทน
ส่วนผู้ตัดสินที่ทีมสตูลตั้งข้อสงสัยในการทำหน้าที่นั้น ประธานลีกภูมิภาคได้ประสานให้เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแจ้งความหมิ่นประมาทที่มีการอ้างถึง "ผู้ใหญ่" สั่งมาให้ตัดสินเข้าข้างทีมขอนแก่น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนผู้ตัดสิน รวมถึงจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบผู้ตัดสิน
การสอบสวนผู้ตัดสินนายนรินทร์พงศ์จะเข้าไปร่วมสอบสวนผู้ตัดสินด้วยเช่นกัน โดยมี 3 จังหวะปัญหาที่สตูลร้องเรียน หากพบว่าผู้ตัดสินผิดจริงตามที่สตูลร้องเรียนจะมีมาตรการลงโทษผู้ตัดสินทันที
"เรื่องนี้ไม่ได้จบแค่นี้ วันนี้เราจะต้องดำเนินการตรวจสอบพฤติกรรมของกรรมการในนัดนี้ว่าการให้ใบเหลืองและเป็นเหตุให้ผู้เล่นทีมสตูลโดนใบแดงออกไป 2 คน เป็นการตัดสินด้วยหลักการโดยสุจริตหรือไม่" นายนรินทร์พงศ์กล่าว
ทางด้านนายสัมฤทธิ์ เลียงประสิทธิ์ ประธานสโมสรสตูล ยูไนเต็ด เปิดเผยกับทีมข่าวไทยพีบีเอสว่าจะยื่นอุทธรณ์บทลงโทษเพราะมองว่าโทษ 3 ปีร้ายแรงเกินไป และมีการปรับเงินซ้ำซ้อน โดยตามระเบียบจะยื่่นอุทรณ์ภายใน 72 ชั่วโมง พร้อมยกกรณีนครปฐมที่แฟนบอลทำร้ายผู้ตัดสินในเกมแพ้ศรีสะเกษในบ้านเมื่อปี 2553 มาเปรียบเทียบ ซึ่งเหตุการณ์นั้นมีผู้ชักปืนออกมาข่มขู่ แต่นครปฐมโดนลงโทษห้ามแข่งขันเพียง 2 ปีเท่านั้น นายสัมฤทธิ์แสดงความรู้สึกว่าบทลงโทษนี้ทำให้เขาท้อแท้และหมดกำลังใจ
"กรณีของทีมนครปฐมโดนแบน 2 ปี ทั้งที่กรณีนั้นมีสต๊าฟของทีมไปร่วมทำร้ายผู้ตัดสินร่วมกับแฟนบอลด้วย แต่ของเราสต๊าฟของทีมพยายามเข้าไปห้าม พยายามเข้าควบคุมสถานการณ์อย่างดีที่สุด แต่ห้ามเราแข่ง 3 ปี คุณคิดว่ามันยุติธรรมกับเราหรือยัง" นายสัมฤทธิ์กล่าว
ขณะที่ช่วงเช้าวันนี้ (25 พ.ย.2558) นักเตะสตูลยังลงสนามฝึกซ้อมที่สนามกีฬากลางจังหวัดสตูลเพื่อเตรียมแข่งนัดต่อไปกับ ฉะเชิงเทรา เอฟซี โดยนายอนันต์ ยาง๊ะ กัปตันทีมบอกว่าทีมซ้อมตามปกติซึ่งจะรอฟังคำสั่งจากประธานสโมสร
ส่วนความคืบหน้าด้านคดีหลังจากมีการแจ้งความ พ.ต.อ.โสภณ ปานสมทรง รองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูลเปิดเผยว่า กองบังคับการจังหวัดสตูล รู้ตัวผู้กระทำผิดจากคลิปภาพเหตุการณ์และได้ออกหมายจับแล้ว 2 คน ในข้อหาทำร้ายร่างกาย ซึ่ง 1 ใน 2 คน ได้ถูกจับกุมตัวแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ โดยจะขยายผลเพื่อจับผู้กระทำผิดอีก 1 คน มาลงโทษให้ได้