เตรียมเอาผิดข้าราชการพัวพันคดีโบนันซ่า
ผลการตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ดินสนามแข่งรถโบนันซ่า โดยสำนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา สาขาปากช่อง พบว่ามีเอกสารสิทธิที่ต้องเพิกถอนกรรมสิทธิ์ น.ส. 3 ก. เพิ่มอีก 1 แปลง จำนวนกว่า 20ไร่ จากเดิมที่ทางโบนันซ่านำเอกสารสิทธิ น.ส. 3 ก. มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ จำนวน 5 แปลง จำนวน 55 ไร่ แต่ที่ดินดังกล่าว ไม่มีชื่อของ นายไพวงษ์ หรือ น.ส.พรรณี เตชะณรงค์ ลูกสาว โดยเป็นชื่อชาวบ้าน ที่อาจปล่อยเช่าหรืออาจยังไม่ทำการโอน
หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะส่งเรื่องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาและกรมที่ดินตั้งคณะกรรมการพิจารณาเพิกถอนตามกฎหมายต่อไป สำหรับการดำเนินการต่อเจ้าหน้าที่ที่ดินที่เกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิ น.ส. 3 ก.โดยมิชอบทั้ง 6 แปลง พบว่ามีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 4 คน ที่จะต้องถูกดำเนินการเอาผิดลงโทษทางวินัยตามระเบียบของทางราชการ แม้จะเกษียณอายุราชการไปแล้วก็ตาม ยกเว้นเสียชีวิตไปแล้วจึงจะถือว่าการลงโทษสิ้นสุด สำหรับการฟ้องขับไล่รื้อถอนเจ้าหน้าที่ให้เวลาผู้ประกอบการนำเอกสารหลักฐานเพื่อแสดงกรรมสิทธิ์มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ภายใน 45 วัน
ส่วนกรณีของคีรีมายา รีสอร์ท ที่มีกระแสข่าวว่ารุกล้ำลำรางสาธารณะและลำคลองนั้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ และการสอบร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งพื้นที่นี้ลักษณะคล้ายกันกับกรณีโครงการมูนแดนซ์ ที่มีที่ดินและบ้านพักของพิธีกรข่าวชื่อดังตั้งอยู่ แต่คงต้องสอบดูความชัดเจนถึงที่มาที่ไปว่าได้มาอย่างไร ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่