รวมตัวคนรักของเล่นไอ้มดแเดง
ย้อนไปเมื่อ 40 กว่าปีก่อน หนึ่งในยอดมนุษย์ขวัญใจเด็ก ต้องยกให้ไอ้มดแดงหรือมาส์กไรเดอร์ ซึ่งความสนุกไม่ได้จำกัดแค่บนหน้าจอโทรทัศน์ แต่ยังรวมถึงการตามหาของสะสมของเล่นไอ้มดแดง เป็นที่มาให้เหล่าแฟนพันธุ์แท้ไอ้มดแดงรวมตัวใน Classic Toy ตอนไอ้มดแดงอาละอวาด ซึ่งความพิเศษครั้งนี้ยังได้ตำนานนักเขียนการ์ตูน ไพบูลย์ วงศรี ผู้เขียนการ์ตูนญี่ปุ่นแปลไทยเรื่องไอ้มดแดง มาร่วมย้อนวันวานถึงยอดมนุษย์ขวัญใจเด็ก
รวมพลเหล่าคาเมนไรเดอร์ ทั้งมาส์กไรเดอร์วิซาร์ด ไอ้มดแดง V 1 2 และ 3 พร้อมท่าประจำอย่างการแตะมือเพิ่มพลัง ในสุดยอดภารกิจเพื่อ "ไพบูลย์ วงศรี" นักเขียนการ์ตูนชื่อดัง ผู้บุกเบิกการ์ตูนญี่ปุ่นแปลเป็นภาษาไทย และวาดปกเขียนการ์ตูนไอ้มดแดงอาละวาดมากที่สุดกว่า 100 เล่ม ซึ่งในวัย 70 ปีความจำยังแม่น มาร่วมย้อนความหลังเล่าสู่กันฟังในงาน Classic Toy ตอนไอ้มดแดงอาละวาด
หลายคนตั้งตารอวันนี้โดยเฉพาะ พร้อมพกหนังสือการ์ตูนเล่มเก่าติดมือ เพื่อขอลายเซ็นและกระทบไหล่นักเขียนการ์ตูนชื่อดัง ซึ่งสิ่งที่นักอ่านวัยเยาว์ในวันนั้นไม่เคยได้รู้ คือกว่าจะได้การ์ตูนแปลไทยสักเล่ม ผู้เขียนต้องสั่งต้นฉบับมาจากญี่ปุ่น ลอกลายเส้น และตีพิมพ์จัดจำหน่ายเอง เริ่มต้นจากเล่มแรกคือฟูจิมารูหรือเจ้าหนูลมกรด อุลตร้าแมน รวมทั้งไอ้มดแดงที่ได้รับความนิยมสูงสุดในบ้านเราช่วง 40 ปีก่อนจนเคยต้องเร่งมือวาดไม่ต่ำกว่า 3 ปกต่อเดือน
จากที่เคยถูกมองว่าเป็นการ์ตูนไร้สาระในเมืองไทย ไอ้มดแดงก้าวข้ามกาลเวลาและกลายเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของญี่ปุ่น ซึ่งเสน่ห์ที่หาไม่ได้ในยอดมนุษย์แปลงร่างตัวไหน คือการเป็นยอดมนุษย์ที่มาจากคนธรรมดาสวมหน้ากาก ออกมาผดุงความยุติธรรมที่ผู้ชมตัวจิ๋วสามารถเทียบเคียงและใฝ่ฝันอยากเป็นฮีโร่ในชีวิตจริงได้อย่าง จุติ จันทร์คณา ที่มีคอลเลคชั่นหายากอย่างตุ๊กตุ่นทอยเส้นไอ้มดแดง สะสมมาตั้งแต่รุ่นแรกที่ยังเป็นพลาสติกสีเดียวทั้งตัว
ไม่ได้แผลงฤทธิ์แค่งานนี้งานเดียว เพราะกลุ่มคนรักไอ้มดแดงมีแผนออกอาละวาดอีกครั้งในเดือน ธ.ค.2558 อวดของรักของสะสมเกี่ยวกับฮีโร่ในดวงใจ พร้อมพูดคุยกับสุดยอดแฟนพันธุ์แท้ไอ้มดแดงปี 2007 สมบุญ เกรียงอารีกุล เปิดตำนานไอ้มดแดง แบ่งปันความสุขและความชื่นชอบที่มีต่อนักสู้สวมหน้ากากเจ้าของคำขวัญที่เปี่ยมไปด้วยพลังใจ "สู้ต่อไปทาเคชิ"
