พณ.เผยผู้ประกอบการเสนอซื้อข้าวเสียในสต็อกรัฐล็อตแรก 197 ล้านบาท
กรณีที่สมาคมตรวจสอบสินค้าเกษตรไทย หรือเซอร์เวย์เยอร์ ทำหนังสือร้องเรียนถึงกระทรวงพาณิชย์เรื่องการประมูลข้าวเสียหรือข้าวผิดมาตรฐานในสต็อกรัฐบาลว่า กระบวนการตรวจสอบไม่ชัดเจนและไม่เป็นธรรมกับผู้ประกอบการเซอร์เวย์เยอร์ โดยขอให้มีการตรวจสอบใหม่อีกครั้งก่อนนำมาประมูล
น.ส.ชุติมา บุญยประภัสร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ยืนยันว่าการนำข้าวเสียมาประมูลมีการตรวจสอบคุณภาพข้าวอย่างชัดเจนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีการจัดคุณภาพข้าวตามเกรด โดยมีเจ้าของโกดังและบริษัทตรวจสอบคุณภาพข้าวรับรู้ในกระบวนการตรวจสอบทุกขั้นตอน เนื่องจากเป็นผู้ถือกุญแจเก็บสินค้าด้วย
ซึ่งหากเป็นข้าวในโครงการรับจำนำก่อนปี 2555-2556 บริษัทเซอร์เวย์เยอร์จะเป็นผู้ดูแลรักษาคุณภาพข้าว ทั้งการรับข้าวเข้าคลังและรมยา หากข้าวคุณภาพไม่ได้มาตรฐานบริษัทต้องรับผิดชอบส่วนต่าง พร้อมให้เหตุผลการนำข้าวเสียล็อตแรกกว่า 3.7 หมื่นตันมาประมูลเฉพาะภาคอุตสาหกรรมนั้น เนื่องจากข้าวดังกล่าวเป็นข้าวไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งหากนำมาระบายสู่อุตสาหกรรมอาหารสัตว์จะกระทบราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ในตลาด
น.ส.ชุติมา กล่าวอีกว่า กระทรวงพาณิชย์มีความจำเป็นต้องเร่งระบายข้าวเสีย เพราะรัฐต้องจ่ายค่าเก็บรักษาข้าวถึงวันละ 30 ล้านบาท หากมีการโต้แย้งในเรื่องของคุณภาพข้าวหรือมีตัวอย่างข้าวที่แตกต่างจากผลการจัดเกรดคุณภาพข้าว เซอร์เวย์เยอร์สามารถไปต่อสู้ในชั้นศาลได้ ซึ่งข้าวเสียในโกดังที่ถูกนำมาประมูลนั้นผ่านการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ระบุว่า การประมูลข้าวเสียครั้งนี้ได้รับความสนใจจากเอกชน 13 ราย เสนอซื้อข้าวทั้งหมดจาก 10 โกดัง โดยมูลค่าที่เสนอซื้ออยู่ 197 ล้านบาท ส่วนราคาที่เสนอซื้อปลายข้าวมีการเสนอราคาต่ำสุดและสูงสุด ตันละ 5,020-5,419บาท โดยในวันพรุ่งนี้ (2 ธ.ค.2558) จะเสนอคณะทำงานระบายข้าวว่าราคาสมเหตุสมผลหรือไม่ ก่อนจะนำเสนอผลต่อคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าว (นบข.) ว่าจะขายหรือไม่