ตั้ง 2 ทูตพาณิชย์ ชงเป้าปี 2555 ลุย
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยถึงการประชุมเพื่อรับทราบนโยบายจากนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์และนายภูมิ สาระผล รมช.พาณิชย์ พร้อมสรุปสถานการณ์เศรษฐกิจการค้ารายภูมิภาค ที่กระทรวงพาณิชย์ว่า ผู้แทนจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ(สคต.)ทั้ง 56 ประเทศจะส่งตัวแทนมาสรุปสถานการณ์เศรษฐกิจการค้ารายภูมิภาค 8 แห่ง โดยแบ่งเป็น อาเซียน จีน เอเซียใต้ แอฟริกา ตะวันออกกลาง ญี่ปุ่น ยุโรป(รัสเซียและซีไอเอส)และสหรัฐฯ เพื่อประเมินสถานการณ์ทั่วโลกล่าสุด โดยเฉพาะสถานการณ์ภัยธรรมชาติ การเมือง อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เป็นต้น
ในโอกาสที่ทูตพาณิชย์กลับมาเมืองไทย เพื่อนำผู้ซื้อผู้นำเข้าชมงานสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับและรับนโยบายจากกระทรวงฯแล้ว ระหว่างวันที่ 13 -15 กุมภาพันธ์จะได้รับการติวเข้ม ประชุมแผนงานปี 2555 – 2556 พร้อมรับฟังยุทธศาสตร์การค้า การสัมมนาและโครงการใหม่ๆ อาทิ ไทยแลนด์ทรัสต์มาร์ค ไทยเทรดดอดคอม เป็นต้น ที่หน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมดำเนินการ เพื่อผลักดันการส่งออกของไทยให้ขยายตัวตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 15% หรือ กว่า 263,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นายศิวะลักษณ์ นาคาบดี ผอ.สคต.เมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย กล่าวว่า สคต.ประเมินสถานการณ์ตลาดตะวันออกกลาง คาดว่าจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 12% โดยเฉพาะซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นตลาดสำคัญอันดับ 2 ของภูมิภาคนี้จะส่งออกได้ 10-12% หรือ คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากปี 2554 ที่สามารถส่งออกได้ 2,254 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ ขยายตัว 6.5% จากเดิมที่คาดว่าจะส่งออกได้ตัวเลขสองหลัก
ปีนี้ภาครัฐของซาอุฯประเมินอัตราการเติบโตผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี)ขยายตัว 3.8% เงินเฟ้อไม่เกิน 5.1% ในภาพรวมสถานการณ์เป็นบวก โดยเฉพาะราคาน้ำมันเฉลี่ยทั้งปียังอยู่ในระดับสูงที่ 100 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล การลงทุนโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐาน สิ่งก่อสร้าง พร้อมๆ กับการประกาศขึ้นเงินเดือน จึงทำให้เชื่อว่า เศรษฐกิจซาอุฯยังแข็งแกร่ง เป็นตลาดที่มีศักยภาพของไทย
สำหรับปี 2554 สินค้าส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก คือ ยานยนต์และชิ้นส่วนส่งออก 855 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวลดลง 22% เคมีภัณฑ์ 181ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 230% เครื่องปรับอากาศและชิ้นส่วน 155ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น75% เครื่องจักรและชิ้นส่วน 102 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นกว่า 113% และผลิตภัณฑ์ยาง 93 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 68%ส่วนสินค้าที่มีแนวโน้มการเติบโตดี อาทิ กลุ่มไลฟ์สไตน์ เครื่องประดับเงิน อาหาร ข้าว เป็นต้น
นายจักรินทร์ โกมลศิริ อัครราชทูต(ฝ่ายการพาณิชย์) สคต.กรุงพริทอเรีย ประเทศแอฟริกาใต้ กล่าวว่า มีประชากรราว 49 ล้านคน มีการเติบโตของชนชั้นกลางที่น่าสนใจ เนื่องจากเป็นคนรุ่นใหม่ มีอาชีพเป็นข้าราชการและนักธุรกิจ ประกอบกับแอฟริกายังเป็นแหล่งลงทุนจากมหาอำนาจทางเศรษฐกิจทั้งจากสหรัฐฯ ยุโรปและจีนที่เข้ามาแสวงหาวัตถุดิบจากทรัพยากรธรรมชาติ น้ำมัน ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ แร่ยูเรเนี่ยม ทองคำ และโลหะมีค่าอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้สถานภาพทางเศรษฐกิจดีขึ้นมาก ส่งผลให้กำลังซื้อมากขึ้นเป็นเงาตามตัวขึ้นด้วย
ทั้งนี้ประเทศที่มีเสถียรภาพและมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดีของทวีปแอฟริกาตอนใต้ จากการคาดการณ์ของธนาคารเพื่อการพัฒนาของแอฟริกา อาทิ โมซัมบิก จีดีพีปีนี้คาดว่าจะขยายตัว 7.8% จากปีก่อน 7.7% ประเทศแองโกลา 11.1% จากปีก่อน 7.5% และเมอริเซียส 4.1% จากปีก่อน 4% ดังนั้นธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ ข้าว อาหาร จึงมีโอกาสสูง
ปี 2555 คาดว่า ไทยจะส่งออกไปทวีปแอฟริกา(55ประเทศ) ขยายตัวได้ 5% จากปีก่อนหน้าที่ไทยส่งออกไปทั้งทวีป 7,759 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ ขยายตัว 14% เฉพาะแอฟริกาใต้คาดว่าปีนี้จะส่งออกได้ประมาณ 2,320 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ ขยายตัว 5 % จากปี 2554 สามารถส่งออกได้ 2,202 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวกว่า 25%
สินค้าส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก คือ 1.รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบคิดเป็นมูลค่า 521 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 38% 2.ข้าว 333 เหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 8.5 % 3.เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ 180 เหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 19 % 4.เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ 104 เหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 41% และ5.ผลิตภัณฑ์ยาง 100 เหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 25 %