ศาลฎีกาพิพากษา 13 จำเลย
วันนี้ (15 ธ.ค.2558) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลจังหวัดอุบลราชธานีพิพากษาศาลฎีกา คดีเผาศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553 ซึ่งมีผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีจำนวน 21 คน แต่มีการยกฟ้องและอัยการโจทก์ไม่ติดใจยื่นฎีกาจำนวน 8 คน คงเหลือผู้ต้องหาที่มาขึ้นศาลฟังคำตัดสินของศาลฎีกาวันนี้ รวม 13 คน
ภายหลังศาลฎีกาอ่านคำพิพากษาเสร็จ นายวัฒนา จันทศิลป์ ทนายจำเลย เปิดเผยว่า ศาลได้มีการกลับคำพิพากษาจำเลยเป็นรายบุคคล ประกอบด้วย
1.นายพิเชษฐ์ ทาบุดดา หรือดีเจต้อย แกนนำ นปช.อุบลราชธานี จากเดิมจำคุก 1 ปี เป็นประหารชีวิต แต่ลดโทษให้เหลือจำคุกตลอดชีวิต
2. นายชัชวาลย์ ศรีจันดา ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง แต่ศาลฎีกาพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต
3. นางอรอนงค์ บรรพชาติ ศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก 2 ปี ศาลฎีกาพิพากษาเป็นจำคุก 33 ปี 4 เดือน
4. นายลิขิต สุทธิพันธ์ จากจำคุก 2 ปี พิพากษาแก้เป็นจำคุก 33 ปี 4 เดือน
5. นางสุมาลี ศรีจินดา ศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์คือ จำคุก 2 ปี
6. นายประดิษฐ์ บุญสุข ศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์คือ จำคุก 2 ปี
7. นายไชยา ดีแสง ศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์คือ จำคุก 2 ปี
8. นายพิสิษฐ์ บุตรอำคา ศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์คือ จำคุก 2 ปี
9. จ.ส.อ.สมจิต สุทธิพันธ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง พิพากษาแก้เป็นจำคุก 1 ปี
10. น.ส.ปัทมา มูลนิล ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษา จำคุก 33 ปี 12 เดือน ศาลฎีกาพิพากษาลดให้เหลือจำคุก 33 ปี 4 เดือน โดยศาลลดโทษให้ 8 เดือน
11. นายธีรวัฒน์ สัจสุวรรณ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษา จำคุก 33 ปี 12 เดือน ศาลฎีกาพิพากษาลดให้เหลือจำคุก 33 ปี 4 เดือน โดยศาลลดโทษให้ 8 เดือน
12. นายสนอง เกตุสุวรรณ์ และ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษา จำคุก 33 ปี 12 เดือน ศาลฎีกาพิพากษาลดให้เหลือจำคุก 33 ปี 4 เดือน โดยศาลลดโทษให้ 8 เดือน
13. นายสมศักดิ์ ประสานทรัพย์ ซึ่งทั้ง 4 คน ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษา จำคุก 33 ปี 12 เดือน ศาลฎีกาพิพากษาลดให้เหลือจำคุก 33 ปี 4 เดือน โดยศาลลดโทษให้ 8 เดือน
นายวัฒนากล่าวว่า การอ่านคำพิพากษาลงโทษจำเลยบางรายที่เคยถูกยกฟ้อง หรือได้รับโทษไม่มาก เพราะศาลฎีกาเชื่อตามพยานหลักฐานและคำเบิกความของพยานว่าทุกคนมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด โดยเฉพาะนายพิเชษฐ์ ทาบุดดา ศาลเชื่อว่าเป็นผู้บงการให้มีการเผาศาลากลางจังหวัดตามที่อัยการยื่นฟ้องจริง
ทั้งนี้ หลังจากศาลมีคำพิพากษา ทางเรือนจำกลางจังหวัดอุบลราชธานีก็จะมารับตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปคุมขังตามคำพิพากษาในช่วงเย็นวันเดียวกัน มีเพียง จ.ส.อ.สมจิตร สุทธิพันธ์ ที่จะได้รับการปล่อยตัว เพราะได้ถูกคุมขังมาเกินกว่าโทษที่ศาลได้ตัดสินแล้ว