เอ็กซ์ซิมแบงก์ห่วงเอสเอ็มอีจะทำธุรกรรมนานขึ้น

ผู้บริหารเอ็กซ์ซิมแบงก์ห่วง ธุรกิจเอสเอ็มอีของไทยใช้เวลาในการทำธุรกรรมทางการเงินนานขึ้น หลังไทยถูกขึ้นบัญชีดำของ FATF

นายคนิสร์ สุคนธมาน กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือเอ็กซ์ซิมแบงก์ ระบุว่า ขณะนี้ธนาคารและสมาคมธนาคารไทยกำลังติดตามผลกระทบจากการที่ไทยถูกคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงิน (FATF) ขึ้นบัญชีประเทศที่ต้องเฝ้าระวังสูงสุด (DARK Gray List)

ผู้บริหารของเอ็กซ์ซิมแบงก์ระบุด้วยว่า เบื้องต้นยังไม่มีรายงานว่าจะส่งผลต่อต้นทุนและการแข่งขันทางการค้าของไทย ซึ่งลูกค้าของธนาคารและคู่ค้ายังไม่สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามา แต่ได้เตรียมรายละเอียดไว้แล้ว พร้อมแสดงความเป็นห่วงว่า ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี ที่มีฐานข้อมูลน้อยกว่า อาจจะได้รับผลกระทบจากการที่คู่ค้าต่างชาติอาจจะมีข้อสงสัยมากขึ้น ทำให้การทำธุรกรรมอาจล่าช้า

เอ็กซ์ซิมแบงก์เชื่อว่า ทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) จะเร่งออกกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และกฎหมายว่าด้วยการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่กลุ่มก่อการร้าย เพื่อให้ประเทศหลุดออกจากบัญชีรายชื่อประเทศที่ต้องเฝ้าระวังสูงสุด