วันนี้ (17ธ.ค.2558) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นางเจเนต เยลเลน ประธานธนาคารกลางของสหรัฐฯ ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 0.25 เป็นไปตามที่หลายฝ่ายจับตาและคาดการณ์ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของสหรัฐฯ นับตั้งแต่ ปี 2549
นักวิเคราะห์ระบุว่า แม้อัตราที่ปรับขึ้นจะดูเหมือนน้อย แต่ในด้านผลกระทบจะเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางและส่งผลทั่วโลก พร้อมทั้งอาจเป็นแรงบีบคั้นให้หลายประเทศต้องทำการปรับดอกเบี้ยขึ้นตามด้วย
อย่างไรก็ตาม อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2551 อยู่ที่ระดับเกือบศูนย์ ซึ่งการตัดสินใจของธนาคารกลางแห่งสหรัฐฯครั้งนี้ ทำให้ประเทศกำลังพัฒนาที่ต้องอาศัยการกู้ยืม และการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจกำลังชะลอตัวต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ มีความกังวลกันว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จะไปซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เพราะอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในสหรัฐฯ จะทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐที่ประเทศและบริษัทต่างๆ กู้ยืมแข็งค่าขึ้น