เมื่อวานนี้ (21 ธ.ค.2558) นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 22 จังหวัด ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาและผู้นำท้องถิ่นขอให้งดสูบน้ำเข้าพื้นที่การเกษตร และขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันประหยัดน้ำอย่างจริงจัง หลังปริมาณน้ำในเขื่อนหลัก 4 แห่ง มีน้ำใช้การได้ 4,014 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยกรมชลประทานได้วางแผนจัดสรรน้ำไว้ครอบคลุมกิจกรรมหลัก คือการอุปโภค บริโภค รักษาระบบนิเวศและผลักดันน้ำเค็ม โดยจะปล่อยระบายจากเขื่อนวันละ 15.6 ล้านลูกบาศก์เมตร และจะคงอัตรานี้ไปจนถึงฤดูฝนปีหน้าเดือน ก.ค.2559
ทั้งนี้ ได้เตรียมปริมาณน้ำไว้ด้วยหากเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงขึ้นอีก ซึ่งเป็นไปตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ไว้ว่าปีหน้ายังเป็นปีที่ฤดูฝนจะมาล่าช้า และจากนี้ต้องมีมาตรการเฝ้าระวังการปล่อยระบายน้ำไม่ให้หายกลางทาง ซึ่งประมาณเดือน ม.ค.2559 ไปแล้ว อาจเกิดปัญหาแย่งชิงน้ำ จึงขอความร่วมมือให้ผู้ว่าราชการทุกจังหวัดช่วยแก้ไขสถานการณ์ และชี้แจงถึงความจำเป็นที่ไม่สามารถส่งน้ำให้นาปรังได้
อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า การทำนาปรังในพื้นที่ภาคกลางพบว่าปลูกไปแล้ว 1.2 ล้านไร่ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.2558 ซึ่งเมื่อเทียบกับปี 2557 เวลาเดียวกัน ปลูกถึง 2 ล้านไร่ ซึ่งแสดงว่ามาตรการขอความร่วมมืองดทำนาปรังได้ผล