รีจัส กรุ๊ป วิจัยผลระบุการทำงานที่ยืดหยุ่น เพิ่มประสิทธิภาพผลิต-ผลกำไรเพิ่มขึ้น
รีจัส กรุ๊ป ผู้ให้บริการออฟฟิศสำนักงานโปรเฟสชั่นแนลครบวงจรที่มีเครือข่ายใหญ่ที่สุดระดับโลก เผยผลการวิจัยครั้งใหม่ของ Regus ซึ่งระบุว่า ร้อยละ 67 ของบริษัทฯในประเทศไทย พบว่า ประสิทธิภาพการทำงานของคนเพิ่มขึ้นขึ้นอยู่กับรูปแบบ/วิธีการทำงานที่ยืดหยุ่น (เวลาและ/หรือสถานที่ทำงาน) และร้อยละ 82 พบว่า การทำงานในรูปแบบที่มีความยืดหยุ่นสามารถเชื่อมโยงกับรายได้ที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน การวิจัยครั้งนี้ได้สำรวจความคิดเห็นผู้จัดการธุรกิจระดับอาวุโสกว่า 16,000 คนทั่วโลก และเชื่อว่านี่เป็นครั้งแรกที่หลักฐานจากงานศึกษาวิจัยอิสระได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสัมพันธ์เชิงเหตุระหว่างการทำงานที่ยืดหยุ่น (เวลาและ/หรือสถานที่ทำงาน) กับประสิทธิภาพการผลิต/การสร้างรายได้ที่ดีขึ้น
ผู้ตอบแบบสำรวจระบุว่า รู้สึกกระตือรือร้นและมีแรงกระตุ้นมากขึ้นเมื่อใช้วิธีการทำงานที่ยืดหยุ่น (ร้อยละ 67) ซึ่งอาจชี้ให้เห็นสาเหตุที่ช่วยให้พวกเขามีประสิทธิภาพในการทำงานและสร้างรายได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การทำงานที่ยืดหยุ่น (โดยการพัฒนาขวัญกำลังใจและสุขภาพของพนักงาน) ยังมีบทบาทสำคัญในฐานะเครื่องมือรักษาบุคลากรที่มีความสามารถให้คงอยู่กับองค์กร ช่วยให้ธุรกิจมีวิธีการสร้างผลตอบแทนและดึงดูดบุคลากรได้อย่างคุ้มค่า
ผลการศึกษาที่น่าสนใจอื่นๆ ได้แก่
•ร้อยละ 73 ของผู้ตอบแบบสำรวจเผยว่า พวกเขาต้องเดินทางไปทำงานนอกสถานที่มากกว่าที่เคย
•ร้อยละ 61 ของผู้ตอบแบบสำรวจกล่าวว่า พนักงานในบริษัทของตนรู้สึกว่าสุขภาพดีขึ้นจากการทำงานที่ยืดหยุ่น
•ร้อยละ 78 ของผู้ตอบแบบสำรวจคาดว่า ณ จุดหนึ่งในสายอาชีพจะมีคนหันไปทำงานพิเศษนอกเวลาจำนวนมากขึ้นอย่างรวดเร็ว
•ธุรกิจขนาดเล็กทั่วโลกได้หันมาใช้แนวทางการทำงานที่ยืดหยุ่นมากกว่าธุรกิจขนาดใหญ่ โดยพนักงานร้อยละ 80 กล่าวว่า บริษัทของตนทำงานอย่างยืดหยุ่นมากกว่าที่เคยเป็นเมื่อเทียบกับร้อยละ 68 ของพนักงานในธุรกิจขนาดใหญ่
นาย วิลเลียม วิลเลมส์ รองประธานประจำภูมิภาคของรีจัส กรุ๊ป ดูแลรับผิดชอบภูมิภาค ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “การพัฒนาเทคโนโลยีและเครือข่ายตลอดจนความต้องการของพนักงานในการสร้างสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานให้ดีขึ้น ได้ผลักดันให้การทำงานที่ยืดหยุ่นกลายเป็นบรรทัดฐานทั่วไปแทนที่จะเป็นเพียงข้อยกเว้น การสำรวจนี้ยืนยันแผนธุรกิจสำหรับการทำงานที่ยืดหยุ่นโดยเผยว่า ธุรกิจทั่วโลกเห็นว่า ประสิทธิภาพการทำงานและการสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้น มีความเชื่อมโยงโดยตรงกับวิธีการทำงานที่ยืดหยุ่น อีกทั้งขณะนี้คนในวงการธุรกิจต่างต้องเดินทางไปทำงานนอกสถานที่มากกว่าที่เคย ดังนั้นการจัดหาศูนย์การทำงานไว้คอยบริการในทุกเมืองจึงเป็นข้อเสนอที่ทวีความน่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะต่อธุรกิจขนาดเล็กที่ไม่สามารถอาศัยเครือข่ายสำนักงานบริษัทเมื่อต้องเดินทางออกนอกสำนักงานใหญ่
พนักงานยังให้ข้อมูลว่า รู้สึกสุขภาพดี กระตือรือร้นมากขึ้น และมีแรงกระตุ้นมากขึ้น ซึ่งหมายความว่า พนักงานมีความสุขในการทำงานมากขึ้น มีความจงรักภักดีเพิ่มขึ้น และมีแนวโน้มที่จะลาออกจากองค์กรน้อยลง เนื่องจากความคาดหวังและความต้องการของพนักงานเปลี่ยนไป การทำงานพิเศษนอกเวลาจึงกลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้น ไม่เฉพาะสำหรับผู้ทำงานอิสระ คุณแม่หรือผู้สูงอายุที่ทำงานนอกบ้านเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับพนักงานที่เป็นคนรุ่นใหม่ที่มุ่งทำงานหลายประเภท