วสท. ยังไม่สรุปผลการตรวจสอบตอม่อโฮปเวลล์
นายสุวัฒน์ เชาว์ปรีชา นายกสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ วสท. พร้อมเจ้าหน้าที่ และตัวแทนจากกรุงเทพมหานคร และการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานีรถไฟโฮปเวลล์ที่พังถล่มลงมาตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา บริเวณหน้าวัดเสมียนนารี ถนนกำแพงเพชร 6 ซึ่งจากการตรวจสอบ เบื้องต้น คาดว่า สาเหตุหลักที่ทำให้แผ่นคอนกรีตชานชาลาโครงการโฮปเวลล์ถล่มลงมา เกิดจากนั่งร้านเหล็กชั่วคราว ที่มีอายุเกือบ 20 ปี ที่นำมารับแผ่นคอนกรีตไว้ เกิดการผุกร่อน และน็อตยึด รวมถึงชิ้นส่วนต่างๆ ได้หายไป จึงทำให้โครงสร้างอ่อนตัวลง และพังลงมา
ส่วนการจัดการกับโครงสร้างที่พังลงมา ได้สั่งการให้รื้อถอนโครงสร้างที่พังลงมาทั้งหมด โดยจะมีการใช้รถแบ็คโฮตัดแบ่งแผ่นคอนกรีตออกเป็นก้อนๆ ก้อนละ 10 ตารางเมตร จากนั้นใช้เครนยกลงมา ซึ่งคาดว่า จะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ จึงจะแล้วเสร็จ ขณะที่ได้มีการกำชับไปยังเจ้าหน้าที่ที่ทำการรื้อถอนให้ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างระมัดระวัง เนื่องจากในบริเวณดังกล่าวนั้นมีท่อส่งก๊าซอยู่ด้วย ซึ่งหากแผ่นคอนกรีตหล่นลงมาในจุดดังกล่าว ก็อาจทำให้เกิดอันตรายได้
ส่วนการตรวจสอบโครงสร้างชานชาลาโฮปเวลล์ที่เป็นจุดเสี่ยงในบริเวณใกล้เคียง เจ้าหน้าที่จากสามหน่วยงาน จะร่วมตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อประเมินว่าโครงสร้างดังกล่าว มีโอกาสเสี่ยงพังถล่มลงมาอีกหรือไม่และหลังจากดำเนินการเคลียร์ซากที่พังถล่มลงมาแล้วเสร็จ วสท.จะดำเนินการตรวจสอบตอม่อโฮปเวลล์ ที่มีโครงการจะนำไปเป็นฐานส่วนหนึ่งของรถไฟฟ้าสายสีแดง โดยจะมีการตรวจตอม่อทั้งหมดว่าจะสามารถใช้การได้หรือไม่ แต่ในเบื้องต้นเชื่อว่า ตอม่อทั้งหมดนั้น จะสามารถใช้การได้ เนื่องจากเป็นโครงสร้างของโครงการระดับชาติ ที่มีการออกแบบตรวจสอบอย่างถูกต้อง ซึ่งโดยปกติแล้ว โครงสร้างของโครงการลักษณะนี้ จะมีอายุ 50-100 ปี แต่ยังต้องทำการตรวจสอบตามวิศวกรรมวิธีอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งทำได้หลายวิธี อาทิ นำเครื่องยิงคอนกรีต มายิงตรวจสอบว่ารับความแข็งแรงได้เท่าไหร่ และเจาะเอาตัวอย่างคอนกรีตไปตรวจสอบ
ด้านนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า จะให้ วสท. เข้าไปศึกษาตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของคานหรือเสาของโฮปเวลล์ทั้งหมดที่มีอยู่ 120 เสา เพื่อยืนยันว่าส่วนที่พังไม่เกี่ยวกับตอม่อหรือเสาหลัก เพราะมีแผนที่ใช้ตอม่อในการก่อสร้างส่วนต่อขยายเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดง เพื่อเชื่อมรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ จากสถานีพญาไท ไปยังท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อให้ 2 ท่าอากาศยานในกรุงเทพมหานครเชื่อมต่อกัน ส่วนของงบประมาณ ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน เนื่องจากยังติดปัญหาเรื่องคดีความเดิมกรณีโฮปเวลล์ แต่ก็อยากได้เส้นนี้ให้เส้นทางนี้ สามารถดำเนินการได้เร็วที่สุด
ขณะที่ นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า การตรวจสอบโฮปเวลล์ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีความเห็นตรงกับ กทม. ว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของ กทม. ในการดูแลความเดือดร้อนของประชาชน โดย กทม. ได้มีบันทึกแจ้งการตรวจสอบโครงสร้างปัจจุบันแก่การรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายแล้ว