วันนี้ (3 ม.ค. 2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลไกแก้ทุจริตเป็นอีกข้อเรียกร้องสำคัญก่อนการรัฐประหารในวันที่ 22 พ.ค. 2557 และยังเป็นที่มาของมติ ครม. วันที่ 22 ธ.ค. 2558 เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งถือเป็นรูปธรรมแรกของข้อเสนอปฏิรูป โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งถือว่าเร็วกว่าแผนปฏิรูปเดิมที่วางไว้ ที่กำหนดดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 12 เดือน
สาเหตุหลักที่ทำให้การขับเคลื่อนในเรื่องดังกล่าวทำได้เร็ว เพราะกลไกป้องกันและขจัดการทุจริตที่มีประสิทธิภาพ ถูกกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว มาตรา 27 โดยให้เป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของ สปท.ในการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ 11 ด้าน
ด้วยเหตุนี้ ทำให้ ร.อ.ทินพันธ์ นาคะตะ ประธาน สปท. ชี้แจงว่า ข้อเสนอปฏิรูปเร่งด่วนที่จะดำเนินการในลำดับต่อไประหว่างวันที่ 7-8 ม.ค. 2559 จะเริ่มจากประเด็นที่เห็นสอดคล้องกับหน่วยงานอื่นก่อนบ้าง เช่น การตั้งมหาวิทยาลัยกีฬาของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
นับแต่ปี 2559 ก่อนเข้าสู่โรดแมประยะที่ 3 ของการเลือกตั้งทั่วไปกลางปี 2560 รัฐบาลหลือเวลาอีกเพียง 1 ปี 6 เดือน และยังเป็น 18 เดือนสุดท้ายของโรดแมป สปท. ที่จะต้องส่งต่อการปฏิรูปให้ได้ผล จึงเกิดเป็นโครงสร้างคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน ผ่านรองนายกรัฐมนตรี 6 กลุ่ม เพื่อขับเคลื่อนแผนปฏิรูปสู่การปฏิบัติ ก่อนส่งต่อให้รัฐบาลหลังการเลือกตั้ง เพื่อขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่วางไว้
นอกจากปัญหาความมั่นคง และการรักษาความสงบเรียบร้อยแล้ว การปฏิรูปประเทศเป็นภารกิจหลักที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้เป็นเหตุผลในการเข้ายึดอำนาจ
1 ปี 6 เดือนนับจากนี้ จึงเปรียบเหมือนการนับถอยหลังขับเคลื่อนงานปฏิรูป ซึ่งเป็นอีกตัวชี้วัดว่ารัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จะสามารถคืนความสุขและสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้จริง อย่างที่ตั้งใจไว้ก่อนที่ 22 พ.ค. 2557 หรือไม่