ศึกเลือกตั้งเฟ้นตัวแทนพรรครีพับลิกันลงชิงประธานาธิบดียังยืดเยื้อต่อไป
นายมิตต์ รอมนีย์ อดีตผู้ว่าการรัฐแมซซาชูเส็ท ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ต่อผู้สนับสนุนที่เมืองบอสตัน หลังจากที่เขาได้รับคะแนนเสียงมากที่สุดในการลงคะแนนในวันซูเปอร์ ทิวส์เดย์ ซึ่งมีการลงคะแนนพร้อมกัน 10 รัฐ และแทบจะเป็นการชี้ชัด ว่าใครจะได้ชัยชนะในการแข่งขันเพื่อเป็นผู้แทนพรรครีพับลิกัน
โดยนายรอมนีย์สัญญาว่า หากเขาได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี เขาจะพลิกฟื้นเศรษฐกิจของสหรัฐให้กลับมาเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจโลกอีกครั้ง อย่างที่ประธานาธิบดีคนปัจจุบันทำไม่ได้ แต่ระหว่างการฉลองชัย นายรอมนีย์กลับต้องเจอกับการประท้วงจากกลุ่มผู้สนับสนุนกฎหมายที่ให้สิทธิคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้าศึกษา และรับใช้ชาติในกองทัพได้อย่างถูกต้อง ซึ่งนายรอมนีย์ปฏิเสธกฎหมายฉบับนี้ แต่ท้ายที่สุดผู้ประท้วงก็ต้องออกจากห้องฉลองชัย
นายรอมนีย์ถือเป็นตัวเต็งในการชิงชัยครั้งนี้ และมีทุนหนาที่สุด แต่ใช่ว่าเขาจะชนะลอยลำ เพราะแม้เขาจะคว้าชัยใน 6 รัฐจาก 10 รัฐในการลงคะแนนซูเปอร์ทิวส์ เดย์ คือ แมสซาชูเส็ท ไอดาโฮ่ เวอร์มอนท์ เวอร์จิเนีย อลาสก้า และเฉือนเอาชนะอย่างเฉียดฉิวในรัฐสวิง เสตท อย่าง โอไฮโอ้ ซึ่งไม่เคยมีผู้สมัครของพรรครีพับลิกันที่แพ้ในรัฐนี้ และจะได้เป็นตัวแทนพรรคชิงตำแหน่งประธานาธิบดี
แต่หากรวมคะแนนที่นั่งคณะผู้แทนพรรคที่เขาได้รับนับตั้งแต่เริ่มการแข่งขันจนถึงปัจจุบันยังไม่ทิ้งขาดพอจะทำให้นายริค ซานโตรัม ที่ตามมาเป็นอันดับ 2 ตกที่นั่งลำบาก และไม่มากพอจะทำให้ผู้สมัครอีก 2 คน คือนายนิวท์ กริงกริช และนายรอน พอล ถอนตัวจากการแข่งขันได้ ทำให้แน่นอนว่าการแข่งขันเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันจะยืดเยื้อต่อไป และรัฐที่จะลงคะแนนเป็นลำดับต่อๆ ไป ก็ไม่ส่งผลดีต่อนายรอมนีย์นัก
ขณะนี้นายรอมนีย์มีคะแนนคณะผู้แทนพรรครีพับลิกันอยู่ในมือทั้งหมด 415 เสียง ตามมาด้วยนายริค ซานโทรัมที่มี 176 เสียง นายนิวท์ กิงกริช 105 เสียง และนายรอน พอล 47 เสียง โดยผู้แข่งขันจะต้องสะสมคะแนนให้ได้ถึง 1,144 เสียง จึงจะได้เป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน