เครือข่ายแรงงานหญิง ยื่น 6 ข้อเรียกร้องแรงงานถูกเลิกจ้าง
เครือข่ายองค์กรแรงงานหญิง เดินเท้าจากสำนักงานองค์การสหประชาชาติ ไปทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นข้อเรียกร้องถึงนายกรัฐมนตรี 6 ข้อ เนื่องในวันสตรีสากล ซึ่งตรงกับวันที่ 8 มีนาคมของทุกปี โดยแบ่งเป็นประเด็นเร่งด่วน 2 เรื่อง ได้แก่ผลกระทบจากวิกฤตอุทกภัยที่มีต่อการเลิกจ้างแรงงานหญิงในภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากพบว่ามีการเลิกจ้างแล้ว 51,056 คน ขณะที่แรงงาน 163,712 คน ยังไม่กลับเข้าทำงาน ซึ่งเชื่อว่าจะมีแรงงานหญิงกว่าครึ่งที่ได้รับผลกระทบเพราะจากจำนวนผู้มีงานทำทั้งหมด 38 ล้านคน เป็นผู้หญิงจำนวน 17.6 ล้านคน หรือร้อยละ 46 ของผู้มีงานทำทั้งหมด และการเข้าไม่ถึงกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ของกลุ่มแรงงานหญิงในภาคอุตสาหกรรม ทั้งแรงงานในระบบและแรงงานนอกระบบ พร้อมการคัดค้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ เพราะจะทำให้กลุ่มแรงงานหญิงด้อยโอกาส เข้าไม่ถึงบริการสาธาณูปโภคต่างๆ และสุดท้าย ให้เพิ่มสัดส่วนแรงงานหญิงในคณะกรรมการไตรภาคีด้านแรงงาน และเพิ่มสัดส่วนจำนวนนักการเมืองหญิงให้มากขึ้น เพื่อมีส่วนรวมในการตัดสินใจและวางแผนในระบบนโยบาย
ขณะที่รัฐบาล จัดงานวันสตรีสากล ที่เมืองทองธานี โดยนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้เปิดงาน ภายใต้แนวคิดพลังสตรี พลังสร้างสรรค์อนาคต เพื่อนำเสนอคุณงามความดี ของสตรีที่มีพลังสร้างสรรค์ในด้านต่าง ๆ รวมทั้งส่งเสริมสถานภาพของสตรี ความเสมอภาคระหว่างชายและหญิง และความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว พร้อมกันนี้ได้มอบโล่ห์ประกาศเกียรติคุณให้กับสตรี บุคคลและหน่วยงานองค์กรดีเด่นจำนวน 19 สาขา รวม 30 รางวัล รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดีเด่น ด้านสตรีและครอบครัว จำนวน 116แห่ง โดยปีนี้นี้ชูนโยบายกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ซึ่งเป็น 1 ใน 16 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้หญิงเข้าถึงแหล่งเงินทุนหมุนเวียนดอกเบี้ยต่ำ นำไปพัฒนาอาชีพ สร้างงานและสร้างรายได้ พัฒนาศักยภาพเครือข่ายสตรี รวมถึงส่งเสริมสิทธิสตรี เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้หญิงให้ดีขึ้น ด้วยงบประมาณ 7,700 ล้านบาท ท่ามกลางกระแสคัดค้านเกี่ยวกับรายละเอียดและวิธีการดำเนินงานที่ไม่ชัดเจน